เมื่อวันที่ (17 กันยายน 2562) ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562 ซึ่งชี้แจงไว้หลายหมวดด้วยกัน
โดยทางเพจเฟซบุ๊ก ‘iLaw’ เพจที่ให้ข้อมูลความรู้ด้านกฎหมาย ได้เผยถึงจุดที่น่าสนใจของข้อกำหนดฉบับนี้ในข้อที่ 10 ที่ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดบิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายตามคำสั่งหรือคำวินิจฉัยของศาล หรือวิจารณ์คำสั่งหรือคำวินิจฉัยของศาลโดยไม่สุจริต หรือใช้ถ้อยคำหรือมีความหมายหยาบคาย เสียดสี ปลุกปั่น ยุยง หรืออาฆาตมาดร้าย ซึ่งข้อกำหนดฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้ 30 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือในวันที่ 17 ตุลาคม 2562
นอกจากนี้ iLaw ยังเผยถึงรายละเอียดสำคัญส่วนอื่นว่า ข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 6 ซึ่งกำหนดให้ประธานศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจออกข้อกำหนด ระเบียบ หรือประกาศของศาล โดยการออกข้อกำหนดหรือระเบียบดังกล่าวให้เป็นไปตามมติของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และมาตรา 28 ซึ่งกำหนดให้ประธานศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจออกข้อกำหนดศาลเกี่ยวกับการพิจารณาคดีได้ แต่ข้อกำหนดที่ออกมาจะต้องไม่ขัดกับ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาฯ
ในข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญยังกำหนดให้บุคคลที่เข้ามาในที่ทำการศาล หรือเข้าฟังการไต่สวนของศาลต้องประพฤติตัวตามที่ศาลกำหนด มิเช่นนั้นจะถือเป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล อย่างเช่น
ข้อ 8 (2) ห้ามใช้เครื่องขยายเสียงหรือส่งเสียงรบกวนหรือกระทำการอื่นใดที่เป็นการรบกวนการพิจารณาคดีของศาลหรือการทำงานของเจ้าหน้าที่ศาล และห้ามกีดขวางทางเข้าออกศาล
ข้อ 8 (3) ห้ามประพฤติตนในทางก่อให้เกิดความไม่เรียบร้อย หรือก่อความรำคาญ หรือกระทำการในลักษณะยุยงส่งเสริมการกระทำข้างต้น ในการพิจารณาคดีหรือการทำงานของเจ้าหน้าที่ศาล
ข้อ 8 (7) ห้ามแถลง ชี้แจง แจกจ่ายเผยแพร่ ให้สัมภาษณ์หรือพูดออกอากาศในบริเวณศาล ที่อาจมีผลกระทบกระเทือนต่อการพิจารณาคดี โดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยข้อกำหนดข้อที่ 9 ระบุว่า ศาลอาจออกคำสั่งให้บุคคลใด หรือกลุ่มบุคคลใดกระทำการหรืองดเว้นการกระทำเพื่อให้การพิจารณาคดีดำเนินไปอย่างสงบเรียบร้อยและรวดเร็ว
นอกจากนี้ ในข้อที่ 10 ยังกำหนดให้ ‘ห้ามบิดเบือน’ ข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายตามคำสั่งศาล หรือวิจารณ์คำสั่งหรือคำวินิจฉัยของศาล โดยไม่สุจริตหรือใช้ถ้อยคำ หรือมีความหมายหยาบคาย เสียดสี ปลุกปั่น ยุยง หรืออาฆาตมาดร้าย
ซึ่งข้อกำหนดฯ ในข้อที่ 10 มีเนื้อหาในลักษณะเดียวกับมาตรา 38 วรรคสาม ของ พ.ร.ป.ศาลรัฐธรรมนูญฯ แต่ใน พ.ร.ป.กำหนดว่า ‘การวิจารณ์คําสั่งหรือคําวินิจฉัยคดีที่กระทําโดยสุจริตและมิได้ใช้ถ้อยคําหรือมีความหมายหยาบคายเสียดสี หรืออาฆาตมาดร้าย ไม่มีความผิดฐานละเมิดอํานาจศาล’ ซึ่งข้อนี้ผู้ถูกตั้งข้อกล่าวหาละเมิดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ อาจยกมาเป็นข้อต่อสู้ในกรณีที่ตัวเองถูกตั้งเรื่องละเมิดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญได้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: