×

‘เจียรวนนท์’ ยังครองแชมป์ 50 อันดับมหาเศรษฐีไทยปี 2565 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ​ 9.33 แสนล้านบาท

08.07.2022
  • LOADING...
เจียรวนนท์

นิตยสาร Forbes Thailand ประกาศผลการจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทยประจำปี 2565 เผย Top 3 มหาเศรษฐีไทย ยังเป็นของตระกูล ‘เจียรวนนท์’ ‘อยู่วิทยา’ และ ‘สิริวัฒนภักดี’ ตามลำดับ ระบุมูลค่าทรัพย์สินมหาเศรษฐีไทยลดลงเกือบ 6% เซ่นพิษตลาดหุ้นร่วงและเงินบาทอ่อนค่า 

 

Forbes Thailand ระบุว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวซึ่งเป็นแกนหลักทางเศรษฐกิจของประเทศ ได้รับการผ่อนคลายกฎระเบียบ พร้อมเดินหน้าเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกครั้ง ใน 5 เดือนแรกของปี 2565 มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าประเทศเป็นจำนวน 1.3 ล้านคน คิดเป็นเพียงเศษเสี้ยวของจำนวนนักท่องเที่ยว 40 ล้านคนต่อปี ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด

 

ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ซบเซา ดัชนีหุ้นไทยปรับลดจากจุดสูงสุดลง 3% และจากการจัดอันดับมหาเศรษฐีไทยครั้งล่าสุด อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อหน่วยดอลลาร์ อ่อนค่าลงถึง 12% ส่งให้มูลค่ารวมทรัพย์สินของมหาเศรษฐีไทยทั้ง 50 รายชื่อ ลดลงเกือบ 6% อยู่ที่ 1.51 แสนล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 5.31 ล้านล้านบาท เมื่อเทียบกับการจัดอันดับปีที่ผ่านมา

 

มหาเศรษฐีไทย 3 อันดับแรกยังไม่มีการเปลี่ยนอันดับจากปีที่ผ่านมา มหาเศรษฐีอันดับที่ 1 ยังคงเป็น ‘พี่น้องเจียรวนนท์’ แม้มูลค่าทรัพย์สินรวมของพวกเขาลดลง 3.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมาจากอัตราแลกเปลี่ยน ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินรวมของมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของประเทศจากการจัดอันดับโดย Forbes อยู่ที่ 2.65 หมื่นล้านดอลลาร์ (9.33 แสนล้านบาท) 

 

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของกลุ่มบริษัทในเครือซีพี คือดีลการควบรวมระหว่าง บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) กับ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (​DTAC) ที่ยังคงรอคอยการอนุมัติจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช.

 

ขณะเดียวกัน จากยอดขายของเครื่องดื่มชูกำลัง Red Bull ที่เติบโตจากทั่วโลก ทำให้มูลค่าทรัพย์สินของมหาเศรษฐีอันดับ 2 ‘เฉลิม อยู่วิทยา’ และครอบครัว เพิ่มขึ้นอีก 1.9 พันล้านดอลลาร์ มูลค่าทรัพย์สินในการจัดอันดับประจำปีนี้อยู่ที่ 2.64 หมื่นล้านดอลลาร์ (9.30 แสนล้านบาท) ใกล้เคียงมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งอย่างมาก 

 

ส่วนมหาเศรษฐีไทยอันดับที่ 3 ได้แก่ ‘เจริญ สิริวัฒนภักดี’ โดยมูลค่าทรัพย์สินของเขาอยู่ที่ 1.12 หมื่นล้านดอลลาร์ (3.94 แสนล้านบาท)

 

การจัดอันดับมหาเศรษฐีประจำปี 2565 มีมหาเศรษฐีไทยเพียง 10 รายที่มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ‘สารัชถ์ รัตนาวะดี’ มหาเศรษฐีด้านธุรกิจพลังงาน และจากอานิสงส์ของอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้มูลค่าทรัพย์สินของเขาเพิ่มขึ้น 2.2 พันล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เขาติดในรายชื่ออันดับที่ 4 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ (3.87 แสนล้านบาท) นอกจากธุรกิจพลังงานแล้ว สารัชถ์ยังเดินหน้าขยายความร่วมมือทางธุรกิจนำ กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ, AIS และ Sintel เตรียมจัดตั้งศูนย์ข้อมูลในประเทศ

 

สำหรับมหาเศรษฐีหน้าใหม่ 3 รายในปีนี้ ได้แก่ อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ บมจ.เจ มาร์ท ติดในรายชื่อมหาเศรษฐีไทยในอันดับที่ 37 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 835 ล้านดอลลาร์ (2.94 พันล้านบาท) อันเนื่องมาจากมูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่เพิ่มสูงขึ้น

 

ขณะที่มูลค่าหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้นของ Com7 หนึ่งในผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์จาก Apple รายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ส่งให้ ‘สุระ คณิตทวีกุล’ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอแห่ง บมจ.คอมเซเว่น (COM7) ติดในรายชื่อมหาเศรษฐีไทยในอันดับที่ 49 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 670 ล้านดอลลาร์ (2.36 พันล้านบาท) 

 

สำหรับมหาเศรษฐีอีกรายคือ ‘พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี’ ผู้ร่วมก่อตั้งคลินิกเสริมความงามพงศ์ศักดิ์ และยังเป็นนักลงทุนสาย Value Investor หรือ VI ติดในอันดับที่ 50 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 655 ล้านดอลลาร์ (2.3 พันล้านบาท) ซึ่งหนึ่งในพอร์ตหุ้นที่เขาถือครอง มีหุ้นของกลุ่ม Com7 อยู่ส่วนหนึ่ง

 

สำหรับมหาเศรษฐีที่กลับเข้าสู่อันดับ 50 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2565 มีจำนวน 3 ราย ได้แก่ ‘กัลกุล ดำรงปิยวุฒิ์’ ผู้ก่อตั้ง บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ซึ่งห่างหายจากการเป็น 1 ใน 50 รายชื่อเป็นเวลา 4 ปี โดยบริษัทด้านพลังงานแห่งนี้ได้เดินทางสู่ธุรกิจใหม่ด้านกัญชา-กัญชง ขณะที่อีก 2 มหาเศรษฐีไทยที่กลับเข้าสู่อันดับ ได้แก่ ‘บุญชัย เบญจรงคกุล’ ประธานกรรมการ DTAC และ ‘พิชญ์ โพธารามิก’ ผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS)

 

การจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทยประจำปี 2665 ในปีนี้ ขีดเส้นมูลค่าทรัพย์สินต่ำสุดของผู้ที่ติดการจัดอันดับมหาเศรษฐีทั้ง 50 คนที่ 655 ล้านดอลลาร์ ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่ขีดเส้นไว้ที่ 737 ล้านดอลลาร์ และในการจัดอันดับประจำปีนี้ มีมหาเศรษฐีไทยที่หลุดจากอันดับจำนวน 6 ราย หนึ่งในนั้นคือ สมหวัง และ ไวยวุฒิ สินเจริญกุล แห่งกลุ่มศรีตรังแอโกรอินดัสทรี ซึ่งหนึ่งกลุ่มบริษัทของพวกเขาที่ผลิตถุงมือยางได้รับผลกระทบ เนื่องจากความต้องการของถุงมือยางลดลงในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด

 

ทั้งนี้ การจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2565 คิดจากอัตราแลกเปลี่ยนในวันที่ 17 มิถุนายน 2565 โดย 10 อันดับมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2565 มีรายชื่อดังต่อไปนี้

 

10 อันดับมหาเศรษฐีไทย ประจำปี 2565

 

อันดับ 1 พี่น้องเจียรวนนท์

มูลค่าทรัพย์สิน: 2.65 หมื่นล้านดอลลาร์ / 9.33 แสนล้านบาท

 

อันดับ 2 เฉลิม อยู่วิทยา และครอบครัว

มูลค่าทรัพย์สิน: 2.64 หมื่นล้านดอลลาร์ / 9.30 แสนล้านบาท

 

อันดับ 3 เจริญ สิริวัฒนภักดี

มูลค่าทรัพย์สิน: 1.12 หมื่นล้านดอลลาร์ / 3.94 แสนล้านบาท

 

อันดับ 4 สารัชถ์ รัตนาวะดี

มูลค่าทรัพย์สิน: 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ / 3.87 แสนล้านบาท

 

อันดับ 5 ครอบครัวจิราธิวัฒน์

มูลค่าทรัพย์สิน: 1.06 หมื่นล้านดอลลาร์ / 3.73 แสนล้านบาท

 

อันดับ 6 สมโภชน์ อาหุนัย และครอบครัว

มูลค่าทรัพย์สิน: 3.9 พันล้านดอลลาร์ / 1.37 แสนล้านบาท

 

อันดับ 7 ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ

มูลค่าทรัพย์สิน: 3.1 พันล้านดอลลาร์ / 1.09 แสนล้านบาท

 

อันดับ 8 วานิช ไชยวรรณ

มูลค่าทรัพย์สิน: 3 พันล้านดอลลาร์ / 1.05 แสนล้านบาท

 

อันดับ 9 ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ และครอบครัว

มูลค่าทรัพย์สิน: 2.8 พันล้านดอลลาร์ / 9.86 หมื่นล้านบาท

 

อันดับ 10 ครอบครัวโอสถานุเคราะห์

มูลค่าทรัพย์สิน: 2.7 พันล้านดอลลาร์ / 9.51 หมื่นล้านบาท

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X