วันนี้ (17 มีนาคม) รังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน รับหนังสือจากตัวแทนภาคประชาชนกรณีแกนนำราษฎรอ้างถูกคุมตัวยามวิกาล ซึ่งเครือข่ายภาคประชาชนแสดงความกังวลต่อความปลอดภัย และการประทุษร้าย
ดังนั้น ภาคประชาชนจึงเรียกร้องให้เปิดกล้องวงจรปิดในห้องขังวันเกิดเหตุ ขอให้ กมธ. การกฎหมายฯ เรียกตัวบุคคลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์มาซักถาม ชี้แจงข้อเท็จจริง ให้ กมธ. การกฎหมายฯ อภิปรายและจัดทำรายงานทบทวนแนวทางปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์ เช่น กรณีการย้ายผู้ต้องขังในยามวิกาล การเปลี่ยนย้ายแดนคุมขังโดยไม่มีเหตุอันควร และเจ้าหน้าที่ไม่ระบุชื่อและสังกัดระหว่างปฏิบัติงานคืนดังกล่าว รวมทั้งเจ้าหน้าที่ละเลยให้เกิดเหตุการณ์
รวมทั้งสิทธิในการต่อสู้คดีของผู้ต้องขังในการหารือกับทนายความ โดยเฉพาะการสงวนข้อความหารือต่อสู้คดีควรเป็นความลับ และผู้ต้องขังคดีเดียวกันควรอยู่ในแดนเดียวกัน พร้อมเสนอมาตรการความปลอดภัยผู้ต้องขัง รวมทั้งมาตรการป้องกันโควิด-19 ควรมีการจัดพื้นที่เฉพาะ
พร้อมขอบคุณรังสิมันต์ที่นำป้ายปล่อยเพื่อนเราไปชูในสภา และเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องเสียมารยาท เมื่อเทียบกับการควบคุมตัวเพื่อนเราในยามวิกาล
รังสิมันต์ตั้งข้อสังเกตว่า จากการกระทำของเจ้าหน้าที่ตามที่อานนท์เขียนจดหมายสื่อสารออกมาถือว่ามีความผิดปกติ พร้อมเชื่อว่าผู้ต้องขัง 11 คนที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย ควรได้รับความเป็นธรรมในการประกันตัว เพื่อต่อสู้คดีภายนอก เพราะการควบคุมตัวเหมือนกดดันให้ยอมแพ้ ทำให้กระบวนการยุติธรรมกลายเป็นเรื่องอยุติธรรม
ทั้งนี้ เบื้องต้น กมธ. การกฎหมายฯ จะรับหนังสือไว้เพื่อนำไปหารือและเตรียมลงพื้นที่เรือนจำ โดยจะนำข้อกังวลจากภาคประชาชนไปประกอบการหารือกับทางเรือนจำ เพื่อหาทางออกร่วมกัน
สำหรับภาคประชาชนที่มายื่นหนังสือครั้งนี้ประกอบด้วย พี่สาวของ ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, พี่สาวของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ และ พะเยาว์ อัคฮาด แม่ของเกด-กมลเกด อัคฮาด
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์