วันนี้ (12 ตุลาคม) รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ทั้งเหตุการณ์ที่จังหวัดหนองบัวลำภูและการยิงตัวตายในงานแต่งงานว่า จะป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร เพราะนับตั้งแต่เหตุการณ์กราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา แทบไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรเลยทั้งทหารและตำรวจ นอกจากนี้ยังไม่เห็นความพยายามที่จะปฏิรูปเพื่อป้องกันปัญหาลักษณะเดียวกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
“ผมมองว่าแรงจูงใจการก่อเหตุกราดยิง คือ สภาพแวดล้อมในองค์กรทหารและตำรวจ ทั้งปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน การใช้เส้นสาย ตั๋วช้าง ตั๋วตำรวจ ดังนั้นจึงเป็นคำถามว่าคนที่อยู่ในองค์กรเหล่านี้จะมีความสุขได้อย่างไร จะซื่อสัตย์กับประชาชนได้อย่างไร หลายคนมีความคล้ายและใกล้เคียงกับอาชญากรขึ้นเรื่อยๆ ต่างเพียงแต่พวกเขาใส่ชุดเครื่องแบบ” รังสิมันต์กล่าว
ส่วนที่ พล.อ. ประวิตร ระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นกระทำส่วนตัว จะป้องกันได้อย่างไร รังสิมันต์มองว่าเป็นการโยนความผิด โดยที่ไม่กลับมามองตัวเอง สุดท้ายความเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างจะไม่มีวันเกิดขึ้น และอาจจะทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ ซึ่งเห็นได้จากข่าวหลายครั้งหลังจากเกิดเหตุที่หนองบัวลำภู
โดยรังสิมันต์กล่าวว่า การป้องกันเหตุการณ์เหล่านี้จะต้องดำเนินการ 4 ประการ เพื่อเป็นแนวทางปฏิรูปทหารและตำรวจ ได้แก่
- ป้องกันระบบตั๋วการซื้อขายตำแหน่ง เพื่อไม่ให้คนมีสีเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย เนื่องจากตั๋วมีราคา เงินเดือนไม่เพียงพอ ธุรกิจผิดกฎหมายจึงทำให้คนเหล่านี้มีเงินไปซื้อตั๋ว
- เจ้าหน้าที่ต้องดูแลผู้น้อยอยู่เสมอ ขณะเดียวกันองค์กรต้นสังกัดต้องมีกระบวนการช่วยเหลืออย่างเป็นธรรมและโปร่งใส
- รัฐบาลต้องเข้ามาช่วยเหลือ ไม่ผลักภาระผู้ปฏิบัติหน้าที่ การซื้อปืนเอง ซื้อกระดาษเอง จะต้องไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป นอกจากนี้ต้องไม่มอบภารกิจที่ไม่จำเป็น อย่างทหารรับใช้ เพราะควรได้ทำตามหน้าที่
- กรณีที่พวกเขาต้องออกจากองค์กร รัฐและองค์กรต้นสังกัดต้องเข้ามาดูด้วยว่าพวกเขาสามารถอยู่ได้อย่างปกติสุขกับประชาชนทั่วไปได้หรือไม่ เพราะความกดดันอาจทำให้พวกเขามีสุขภาพจิตที่ไม่ปกติเหมือนคนทั่วไปได้