วันนี้ (16 กุมภาพันธ์) รังสิมันต์ โรม สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ออกหนังสือเรียก 44 สส. อดีตพรรคก้าวไกล ไปรับทราบข้อกล่าวหา ภายหลังร่วมลงชื่อเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายมาตรา 112
รังสิมันต์กล่าวว่า ตอนนี้น่าจะได้รับหนังสือเรียกกันหมดแล้ว ติดอยู่ที่ความล่าช้าในการส่งไปรษณีย์ เป็นสิ่งที่เราต้องรับมือกันต่อไป แต่ยืนยันว่าการทำหน้าที่ของพวกเราเป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ
“วันนี้คุณอ้างเรื่อง ม.112 วันหน้าคุณก็อ้างเรื่องอื่นมาทำลายพรรคการเมืองที่ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ให้ก้าวหน้าเพิ่มขึ้น มันไม่มีกฎหมายห้ามในการเสนอแก้เรื่องดังกล่าว ก็ต้องยืนยันในการทำหน้าที่ของเรา”
รังสิมันต์มองว่า ภารกิจเร่งด่วนของ ป.ป.ช. ตอนนี้คือการเคลียร์ตัวเอง วันนี้ตัวเองยังเคลียร์ไม่ได้ และอาจจะมีความผิดต่างๆ นานาเกี่ยวกับเรื่องทุจริต มีความชอบธรรมอะไรมาทำหน้าที่ตรงนี้ พร้อมตั้งคำถามถึง สุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธาน ป.ป.ช. ว่าจะอยู่เงียบๆ แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ให้เรื่องเงียบไปเองหรือไม่
“ประธาน ป.ป.ช. หรือ ป.ป.ช. ท่านเป็นองค์กรอิสระ ใช้เงินภาษีของประชาชน เมื่อมีเรื่องที่เป็นข้อกล่าวหาต่างๆ มากมายไปสู่ท่าน ท่านมีหน้าที่สร้างความกระจ่างให้กับประชาชน ถ้าท่านไม่ทำหน้าที่ตรงนี้ ท่านต้องสังวรว่าท่านกินภาษีของประชาชนอยู่ ต้องตอบคำถาม“ รังสิมันต์กล่าว
รังสิมันต์ยังระบุว่า ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ป.ป.ช. ต้องรีบขนาดนี้ เราพร้อมจะไปชี้แจงอยู่แล้ว ยอมรับว่าเสียสมาธิในการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะต้องมานั่งคิดเรื่องคดีความ รวมถึงบางคนก็ต้องถอนตัวจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เราก็พยายามทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเพื่อประโยชน์ของประชาชน ประเทศนี้ต้องการฝ่ายค้านที่มีคุณภาพในการตรวจสอบต่อไป
ส่วนจะกระทบกับเสถียรภาพของฝ่ายค้านหรือไม่ รังสิมันต์ระบุว่า อยากให้ประชาชนประเมิน พวกเราต้องโฟกัสเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โฟกัสเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจ และคดีความอีก ก็กินพลังไปมากแล้ว แต่ถ้าตัวเลขฝ่ายค้านลดลงก็ยอมรับว่ามีผลต่อการตรวจสอบอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ รังสิมันต์ไม่ขอประเมินว่าจะกระทบไปถึงการเลือกตั้งปี 2570 หรือไม่ และยังไม่รู้ผลจะจบอย่างไร ก่อนจะย้ำว่า ตอนนี้ยังทำหน้าที่ สส. อยู่
