วันนี้ (8 มิถุนายน) เพจเฟซบุ๊กเพื่อนตำรวจ ผู้ติดตามกว่า 37,000 คน เปิดข้อมูลเกี่ยวกับการเลื่อนขั้นของนายตำรวจที่เลื่อนขึ้นอย่างพุ่งพรวดรวดเร็ว หลังจากเข้าอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร (กอส.) ที่เปิดอบรมทุกปี ปีละ 4 ครั้ง พร้อมตัวอย่างกรณีร้อยตำรวจโทหญิงรายหนึ่งที่เป็นประเด็นในโลกออนไลน์
เพจเฟซบุ๊กเพื่อนตำรวจระบุว่า “อยากเปลี่ยนแปลงความเหลื่อมล้ำ แต่ตัวคนพูดล้ำกว่าคนอื่นมั้ยครับ ส.ต.ต. อยู่ 2 เดือน ร.ต.ต. ตอนเดือนกันยายน 2564 ติด ร.ต.ท. เดือนมิถุนายน 2565 ต่อมามิถุนายน 2566 ติด ร.ต.อ. คือพุ่งมาก ตั๋วช้างยังเรียกพี่ หลักสูตร กอส. ขอสงวนไว้เพื่อทายาทที่พ่อแม่เสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่เท่านั้นครับ…”
“จาก ส.ต.ต.หญิง สู่ ร.ต.อ.หญิง ใช้เวลาไม่ถึง 3-4 ปี ผมที่เป็นตำรวจมา 9 ปี จะติดจ่าปีหน้า เปิดสอบมีแต่สาย อก. กว่าจะเปิดแต่ละปี เปิดแต่ละทีก็รับน้อย สายปราบปรามก็มีแต่ให้ลง 3 จังหวัดชายแดนใต้…นามสกุลดังๆ ทั้งนั้นมาบรรจุ ส.ต.ต. ปีเดียวก็ขึ้นสัญญาบัตรกันหมดแล้ว…” ข้อความในเพจเฟซบุ๊กเพื่อนตำรวจระบุ
นอกจากนี้ยังแท็กเฟซบุ๊ก ‘Rangsiman Rome – รังสิมันต์ โรม’ ของ รังสิมันต์ โรม ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ระบุว่า “ฝากชำแหละหลักสูตร กอส. ด้วยครับ ปีหนึ่งเปิดอบรม 4 รุ่น รุ่นละ 300 คน อ้างว่ารับวุฒิที่ขาดแคลน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ มันคือระบบอุปถัมภ์ ขอสงวนหลักสูตรนี้ไว้ให้ทายาทผู้ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ดีกว่าครับ”
“หลักสูตร กอส. เปิดอบรมทุกปี ปีละ 4 ครั้ง หลักสูตรอื่นๆ ทำไมต้องขออนุญาตด้วยครับ ถ้าจะแก้จริงๆ ผบ.ตร. ต้องแก้ระเบียบใหม่ หยุดรับหยุดใช้ระบบอุปถัมภ์รับบุตรหลานของผู้มีอันจะกินโดยการใช้เส้นสายเข้ามาเป็นตำรวจ…”
ขณะที่รังสิมันต์ได้แสดงความคิดเห็นบนเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า “ตอนนี้ผมทราบปัญหาเรื่องการใช้เส้นสายผ่านหลักสูตร กอส. ของ ตร. แล้วครับ กำลังตรวจสอบ และจะตรวจสอบย้อนหลังหลายๆ ปีด้วยครับ”
รังสิมันต์ระบุอีกว่า ทราบว่าหลักสูตร กอส. ที่ให้บุคคลภายนอกมาเป็นตำรวจ จะมีที่มาคือ
- เป็นทายาทของตำรวจที่เสียชีวิตในหน้าที่
- มีคุณวุฒิที่ขาดแคลน และ
- เป็นนามสกุลดังที่ขาดแคลน