หลังจากการอัปเกรด Shapella ทำให้เหล่านักเทรดสามารถปลดล็อกเหรียญ Ethereum (ETH) ได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มีการเปิดให้ Staking เหรียญ ETH ในเดือนธันวาคม 2020 โดยราคา Ethereum ได้ทะลุระดับราคาทางจิตวิทยาที่ 2,000 ดอลลาร์เมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา และเครื่องมือ Ethereum Rainbow Chart บ่งชี้ว่าราคากำลังฟื้นตัวขึ้น
ทั้งนี้ Ethereum Rainbow Chart ของ Blockchaincenter เป็นหนึ่งในเครื่องมือวิเคราะห์ยอดฮิตที่นักเทรดคริปโตเคอร์เรนซีรู้จักกันดี เครื่องมือตัวนี้ได้ถูกนำมาวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาในอดีต ซึ่งอาจบ่งบอกถึงแนวโน้มและประกอบการตัดสินใจการลงทุนในอนาคตได้
จาก Rainbow Chart แสดงให้เห็นว่าปัจจุบันราคา Ethereum อยู่ในช่วง ‘Fire Sale’ ในแถบสีม่วง ซึ่งบ่งบอกว่าราคาถูกขายมากเกินไป และเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อ โดยแถบสีม่วงอยู่ในช่วงราคาระหว่าง 0-2,320 ดอลลาร์ และราคาพยายามเพิ่มขึ้นไปสู่โซน ‘Undervalued’ (สีน้ำเงิน) ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นช่วงราคาระหว่าง 2,320-3,282 ดอลลาร์ จากข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา
เครื่องมือ Rainbow Chart เกิดขึ้นในปี 2014 เป็นการคำนวณ Logarithmic Regression ซึ่งประกอบด้วยแถบสีต่างๆ บ่งบอกถึงความเชื่อมั่นของตลาดในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน นักลงทุนมักจะนำมาประกอบการตัดสินใจเมื่อต้องการหาจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดของสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งกราฟตัวนี้โด่งดังไม่แพ้ Stock to Flow ของ PlanB เลยทีเดียว
ความแตกต่างระหว่าง Ethereum Rainbow Chart และ Bitcoin Rainbow Chart คือ ชาร์ตของ Bitcoin จะเป็นการวิเคราะห์แนวโน้มราคาจนถึงปี 2035 ในขณะที่ชาร์ตของ Ethereum จะแสดงถึงแนวโน้มที่เป็นไปได้จนถึงปี 2025
ราคา Ethereum อยู่ในโซน ‘Fire Sale’ ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม 2020 และใช้เวลาเกือบ 1 ปีกว่าจะทำจุดสูงสุดที่ 4,354 ดอลลาร์ในแถบสีส้ม และในปี 2015 Ethereum อยู่ในแถบ ‘Fire Sale’ ก่อนที่จะทะยานขึ้นสู่โซน ‘Go back to BTC’ ในเวลา 4 เดือนต่อมา
หากรูปแบบราคาซ้ำรอยอีกครั้ง Ethereum อาจมีโอกาสพุ่งขึ้นไปที่ 21,231-30,654 ดอลลาร์ (แถบ Go back to BTC) ในปี 2023 อย่างไรก็ตาม เป้าหมายราคานี้ดูเป็นแง่บวกเกินจริง เมื่อเทียบกับภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง โอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย และความผันผวนที่สูง จึงมีโอกาสที่ทฤษฎีนี้ผิดพลาดได้ นอกจากนี้ราคาสกุลเงินดิจิทัลในขณะนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยระดับมหภาคมากกว่าแค่รูปแบบกราฟ และนี่เป็นเพียงเครื่องมือคำนวณเพื่อสำรวจการเคลื่อนไหวของราคาในอดีตเท่านั้น ไม่ได้เป็นคำแนะนำในการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนจึงควรพิจารณาการลงทุนอย่างรอบคอบ
การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ย้อนรอยวิกฤตคริปโต การล่มสลายของ FTX รอบนี้จะสั่นสะเทือนตลาดคริปโตได้เหมือนรอบ Mt.Gox ปี 2014 หรือไม่?
- บิล แอคแมน เริ่มใจอ่อน เผย มองคริปโตในมุมบวกมากขึ้น ถึงขั้นเริ่มเข้าลงทุนบ้างแล้ว
- แม้แต่ ‘จัสติน บีเบอร์’ ยังขาดทุน! ผลงาน NFT จาก Bored Ape Yacht Club ที่ซื้อมาด้วยราคา 46.4 ล้านบาท ตอนนี้หล่นลงเหลือ 2.5 ล้านบาท
อ้างอิง:
