วันนี้ (22 ตุลาคม) รัดเกล้า อินทวงค์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงกรณีมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ขยายระยะเวลาการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในจังหวัดชายแดนภาคใต้ออกไปอีก 3 เดือน ระหว่างวันที่ 20 ตุลาคม 2566 – 19 มกราคม 2567 โดยให้ปรับลด 3 อำเภอที่เดิมประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ความมั่นคงฯ แทนที่ ได้แก่ อำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา, อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี และอำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส และให้เพิ่มพื้นที่อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ใช้กลับมาใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
รัดเกล้ากล่าวว่า รัฐบาลใช้แนวทางตัดสินใจบนฐานของข้อมูลสถิติ (Data Driven Decision Making) การตัดสินใจให้พื้นที่อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส จะปรับกลับมาใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ นั้นเกิดขึ้นหลังจากดูจากข้อมูลและสถิติย้อนหลัง 5 ปีที่ชี้ให้เห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความจำเป็นต้องได้รับการคุ้มครองในระดับสูง ซึ่ง สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ที่ทำเนียบรัฐบาลหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 ว่าหากสถานการณ์ในพื้นที่อยู่ในระดับที่ดีไปจนถึงปีใหม่ ก็มีแนวโน้มปรับลดพื้นที่ได้อีก 5-10 อำเภอ ซึ่งหลังปีใหม่จะมีการประชุมพิจารณาอีกครั้ง โดยจะเป็นการใช้ข้อมูลสถิติที่เก็บระหว่างปี 2560-2567 มาประกอบการพิจารณา
ข้อมูลสถิติที่ใช้ประกอบการตัดสินใจประกอบด้วย 4 มิติ ดังนี้
- สถิติเหตุการณ์
- สถิติการสูญเสีย
- สถิติการเคลื่อนไหว
- ผลการบังคับใช้กฎหมาย (สถิติปิดล้อมตรวจค้น จับกุมควบคุมตัวและการดำเนินคดี)
“รัฐบาลมีความจริงใจ มุ่งมั่นแก้ไขปัญหา สร้างสันติสุขในพื้นที่ชายแดนใต้ พร้อมพัฒนาร่วมกันกับกองทัพ ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง มุ่งแก้ปัญหาความรุนแรงได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ รวมถึงจะเป็นประโยชน์ต่อการดูแลรักษาความสงบและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนใต้ ครม. จึงขยายระยะเวลาการบังคับใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในพื้นที่ดังข้างต้นออกไปอีก 3 เดือน” รัดเกล้าย้ำ