×

แฟน Queer Eye ชาวไทยต้องอ่าน! พูดคุยสุดเอ็กซ์คลูซีฟสื่อเดียวในไทยกับหนุ่มๆ The Fab Five

08.06.2018
  • LOADING...

Queer Eye รายการเมกโอเวอร์ยอดนิยมจากค่าย Netflix ในตอนนี้ได้ทำให้เหล่า The Fab Five ทั้ง แอนโทนี โปโรวสกี, แทน ฟรานส์, คาราโม บราวน์, บ็อบบี้ เบิร์ก และโจนาธาน แวน เนสส์ กลายเป็นทีมฮีโร่สุดฮอตที่เปลี่ยนชีวิตคนหลายคนให้รู้จักรักตัวเองมากยิ่งขึ้น ซึ่งหลังจากเปิดตัวซีซันแรกไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยอดเรตติ้งที่แรงดีไม่มีตกทำให้พวกเขาประกาศวันเข้าฉายซีซันที่ 2 ตามมาติดๆ และตอนนี้ The Fab Five ก็เดินทางมางานแถลงข่าวที่ประเทศออสเตรเลีย ซึ่ง THE STANDARD เป็นสื่อไทยสื่อเดียวที่มีโอกาสได้สัมภาษณ์พวกเขาแบบเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ ทั้งประเด็นการเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง หนังเรื่องโปรด และประเทศไทย!

 

 

เมื่อถาม The Fab Five ว่าพวกเขาเคยมาเที่ยวประเทศไทยหรือเปล่า ทุกคนก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าเคย แล้วก็มาเที่ยวประเทศไทยหลายครั้ง ทั้งยังชอบประเทศไทยกันสุดๆ เราจึงถามความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายการแต่งงานของเพศเดียวกันในประเทศไทย เนื่องจากหลายๆ คนในทีมอย่าง แทน ที่ดูแลเรื่องแฟชั่นให้ทีม ก็แต่งงานกับแฟนหนุ่ม ร็อบ ฟรานส์ มาเป็นสิบปีแล้ว แต่ในประเทศไทย กลุ่มคนรักร่วมเพศยังไม่สามารถแต่งงานกันได้ แม้ในสังคมทั่วไปจะดูเปิดกว้างกับเพศที่สามอย่างมาก



คุณรู้สึกอย่างไรกับการที่ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายการแต่งงานของเพศเดียวกัน
แทน: การแต่งงานของเพศเดียวกันมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างหนักและต้องเจอแรงกดดันมาก แล้วมันก็ค่อนข้างแตกต่างด้วย ผมอยากเห็นกลุ่มชายรักชายในประเทศไทยได้รับสิทธิเท่าเทียมกับประชาชนคนอื่นๆ ในประเทศไทยนะ เอาจริงๆ เรื่องสิทธิมนุษยชนหรือการแต่งงานของเพศเดียวกันอาจจะยังล้าหลังอยู่ในหลายๆ ประเทศ ผมรู้สึกว่าเราควรให้ความสนใจกับประเด็นนี้อยู่เรื่อยๆ



ถ้าพวกคุณเคยมาเที่ยวไทยกันหมดแล้ว สนใจมาถ่ายสักเอพิโสดในประเทศไทยบ้างหรือเปล่า
ทุกคน: แน่นอน!
โจนาธาน: เราไปแน่นอน เมื่อไรก็ตามที่ประเทศไทยมีกฎหมายให้คนเพศเดียวกันแต่งงานกันได้ (หัวเราะ)



Queer Eye เป็นรายการฟีลกู๊ดที่เราดูแล้วรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาก คุณมีเพลงหรือหนังให้กำลังใจตอนที่คุณเศร้าแนะนำบ้างหรือเปล่า

โจนาธาน: มี! ผมชอบเรื่อง To Wong Foo (To Wong Foo Thanks for Everything, Julie Newmar) มากๆ ที่นำแสดงโดย แพทริก สเวย์ซี, เวสลีย์ สไนปส์ กับจอห์น เลอกิซาโม มันเป็นเรื่องราวของคน 3 คนที่เป็นตัวเองสุดๆ แบบไม่แคร์ใคร มั่นใจและรักในสิ่งที่ตัวเองเป็นมากๆ มันเลยเป็นหนังที่ผมชอบดูตอนที่รู้สึกนอยด์ๆ แล้วมันยังช่วยให้ผมรู้สึกเชื่อในรายการที่ตัวเองทำอยู่ด้วย

 

 

ในซีซันที่แล้ว Queer Eye จะเน้นไปที่การเมกโอเวอร์ผู้ชายหรือว่าเกย์เป็นส่วนใหญ่ แต่ในซีซัน 2 นี้พวกคุณจะเมกโอเวอร์เพศอื่นๆ ด้วย คุณค้นพบอะไรใหม่ๆ จากการถ่ายทำซีซันนี้ไหม

คาราโม: สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของการที่เราได้เข้าไปช่วยคนในเพศอื่นๆ อย่างผู้หญิงหรือกลุ่มทรานส์ด้วย ไม่ใช่แค่ผู้ชายหรือเกย์อย่างเดียวเหมือนในซีซันแรก คือมันทำให้เรารู้ว่าสุดท้ายแล้วพวกเรามีความเหมือนกันมากกว่าต่างกันครับ ทุกคนมีพื้นฐานเหมือนกัน ทุกคนต้องการความรักเหมือนกัน มันพูดถึงเรื่องราวของกลุ่มคนที่ต้องการเชื่อมโยงกัน กลุ่มคนที่ตามหาความรักเหมือนกัน



มีหลายครั้งที่ใน Queer Eye พูดถึงประเด็นการรักตัวเอง (Self-love) คุณมีข้อเสนอแนะอะไรให้กับคนที่อยากเรียนรู้ที่จะรักหรือมั่นใจในตัวเองไหม
โจนาธาน: ผมอยากบอกถึงคนที่มีปัญหาในการรักและการเคารพตัวเอง คือมันไม่เหมือนสวิตช์ไฟเปิด-ปิดเวลาคุณเดินเข้าห้องนะ มันคือความสัมพันธ์ระหว่างตัวคุณเองที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องทุกวัน มันเป็นเรื่องเล็กๆ วิธีง่ายๆ ที่คุณต้องคอยพูด คอยบอกกับตัวเองมากกว่า เขียนโน้ตแปะบอกตัวเองไว้เลยว่าความมั่นใจในตัวเองเป็นสิ่งที่ห้ามใครมาเอามันไปจากคุณ



จริงๆ ทุกคนต่างมีเรื่องราวชีวิตส่วนตัวที่ต่างกันมาก และพวกคุณก็มักจะเล่าเรื่องของตัวเองออกรายการ คุณคิดว่ามันส่งผลกับการเมกโอเวอร์คนเหล่านั้นด้วยหรือเปล่า
แอนโทนี: ผมว่ายิ่งพวกเราแชร์เรื่องราวส่วนตัวของเรากันเอง มันยิ่งทำให้คนที่เราเข้าไปช่วยเขากล้าที่จะพูดและเปิดใจกับพวกเรามากขึ้น อย่างบางคน ยกตัวอย่างเช่น ทอม แจ็คสัน ที่ไม่สามารถแชร์ความรู้สึกได้เลย หรืออย่างในเอพิโสดที่ 3 ของซีซันแรก คอรี ที่ไม่แม้แต่จะกล้าสบตาคน แต่ผมว่าวิธีแก้ที่ตรงไปตรงมาที่สุดคือแชร์เรื่องราวส่วนตัวกับพวกเขา ความรู้สึกจาก 5 คน 5 บุคลิกที่ต่างกัน จากพื้นฐานวัฒนธรรมที่ต่างกัน ซึ่งมันมอบมุมมองที่เปิดกว้างและหลากหลายมุมมากขึ้น

 

 

ล่าสุดพวกเขาทั้ง 5 ยังปล่อยเทรลเลอร์แรกของ Queer Eye ซีซันที่ 2 ให้เราชมกัน ซึ่งซีซันนี้ก็ยังคงคอนเซปต์เดิมของรายการเมกโอเวอร์ที่ไม่ได้เปลี่ยนแค่เปลือกนอก แต่ยังช่วยให้คนหลายคนได้เรียนรู้ที่จะรักตัวเอง เคารพตัวเอง และดูแลตัวเองจากข้างใน จนทำให้รายการเมกโอเวอร์ที่เหมือนจะดูเอาเพลินกลับเรียกน้ำตาให้คนดูอินไปตามๆ กันได้ทุกเอพิโสด ถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญของ Queer Eye ที่แตกต่างจากรายการอื่นๆ ในปัจจุบัน

อ่านรีวิว Queer Eye ซีซัน 2 ได้ที่นี่ 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X