มาครบ 8 ตอนไปหมาดๆ สำหรับซีรีส์เกาหลีเรื่อง Queen Woo โดย TVING ที่เกาหลีใต้ และสตรีมในเมืองไทยผ่านแพลตฟอร์ม Viu โดยนับเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ใช้ทุนสร้างสูงที่สุดของเกาหลีใต้คือ 22 ล้านดอลลาร์ต่อ 8 ตอน ในขณะที่ Moving อยู่ที่ 45 ล้านดอลลาร์ต่อ 20 ตอน แม้จะใช้ทุนสร้างสูงเหมือนกัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับแตกต่างกัน ด้วยความที่ Queen Woo เต็มไปด้วยริ้วรอยจนถูกวิพากษ์วิจารณ์ในหลายประเด็น จนทำให้ซีรีส์ที่หวังไว้ว่าจะเป็น Game of Thrones เวอร์ชันเกาหลีใต้กลับไปไม่ถึงฝั่งฝัน
Queen Woo สร้างจากเค้าโครงชีวิตของราชินีอูในสมัยโคกูรยอของเกาหลี ซึ่งพระองค์ขึ้นชื่อเรื่องการรักษาอำนาจด้วยการขึ้นเป็นราชินีถึงสองครั้งในรัชสมัยของพระเจ้าโคกุกชอน (โกนัมมู) หลังจากพระสวามีเสียชีวิตก็ทรงอภิเษกกับพระเจ้าซันซัง (โกยอนอู) พระอนุชาของพระเจ้าโคกุกชอน อีกทั้งยังได้ขึ้นเป็นพระพันปีหลวงแม้จะไม่ได้เป็นแม่แท้ๆ ของกษัตริย์ก็ตาม สำหรับในเวอร์ชันซีรีส์ Queen Wooถูกนำมาตีความใหม่ สร้างภาพให้ราชินีอูเป็นวีรสตรีจากเค้าโครงเรื่องจริงในช่วงความวุ่นวายทางการเมือง
Queen Wooเป็นเรื่องราวของ อูฮี (จอนจงซอ) หญิงสาวตระกูลขุนนางที่ได้แต่งงานกับ องค์ชายโกนัมมู (จีชางอุค) ทั้งคู่ครองรักกันและใช้ชีวิตเพื่อปกป้องบ้านเมืองอยู่ทางตอนเหนือ กระทั่งก่อนกษัตริย์องค์ปัจจุบันจะสวรรคต เขาตัดสินใจยกบัลลังก์ให้กับลูกชายคนที่สองคือโกนัมมู ซึ่งไม่ใช่องค์รัชทายาท จึงสร้างความไม่พอใจในกลุ่มขุนนางเป็นอย่างมาก
หลังจากทั้งคู่ขึ้นครองราชย์ โกนัมมูก็เริ่มสงครามอันยาวนานเพื่อทวงคืนดินแดนที่เคยถูกยึดไปโดยราชวงศ์ฮั่นในสมัยกษัตริย์องค์ก่อน กระทั่งโกนัมมูได้รับชัยชนะกลับมา เหล่าขุนนางที่ละโมบในบัลลังก์เริ่มกดดันให้ปลดพระมเหสี โดยอ้างว่าพระองค์ไม่มีรัชทายาท โกนัมมูที่รู้ถึงอันตรายของคนรักจึงตัดสินใจปลดพระมเหสีด้วยตนเอง และช่วยให้นางหลบหนีออกจากวัง แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อกษัตริย์โกนัมมูสวรรคตอย่างกะทันหัน เพื่อปกป้องตนเองและครอบครัว พระมเหสีอูฮีจึงวางแผนกับอัครมหาเสนาบดี อึลพาโซ (คิมมูยอล) ให้ปกปิดเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ เพราะเธอเลือกที่จะแต่งงานใหม่กับหนึ่งในเหล่าองค์ชายเพื่อปกป้องราชบัลลังก์ ก่อนที่ข่าวการสวรรคตจะประกาศออกไป
เธอตัดสินใจออกเดินทางไปพบกับองค์ชายสาม โกบัลกี (อีซูฮยอก) แต่แล้วความโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ของเขาที่เธอได้เห็นก็ทำให้เธอต้องเปลี่ยนใจ เพราะไม่สามารถยื่นอำนาจให้กับคนแบบนั้นได้เด็ดขาด เธอจึงออกเดินทางเพื่อไปพบกับองค์ชายคนต่อไป ซึ่งระหว่างการเดินทาง ความลับการสวรรคตของโกนัมมูก็เริ่มรั่วไหล เธอจึงตกเป็นเป้าหมายของศัตรูทุกเหล่าทัพที่จ้องจะยึดอำนาจ รวมถึงเหล่าองค์ชายที่รอคอยในราชบัลลังก์ เธอจึงต้องต่อสู้อย่างโดดเดี่ยวเพื่อสร้างบัลลังก์ขึ้นมาใหม่ภายใน 24 ชั่วโมง!
อ่านจากเรื่องย่อแล้ว Queen Wooเหมาะมากที่จะสร้างเป็นซีรีส์ชิงไหวชิงพริบด้วยสถานการณ์สุญญากาศทางการเมือง แถมยังมีเรื่องเพศว่าด้วยการแต่งงานใหม่ภายใน 24 ชั่วโมงของราชินีอู ซึ่งผู้สร้างก็ต้องการเน้นย้ำประเด็นนี้ จึงทำให้ Queen Wooเป็นซีรีส์เรต 21+ เพราะมีฉากความรุนแรงและเลิฟซีนอันดุเดือด อย่างไรก็ตาม ซีรีส์กลับขาดความโดดเด่นและน่าสนใจ เล่าเรื่องสลับไปมาระหว่างตัวละครและไทม์ไลน์ให้คนดูปะติดปะต่อเอง ทั้งที่ให้ข้อมูลและเหตุผลน้อยมากจนรู้สึกสับสนและไม่รู้ว่าเรื่องราวกำลังมุ่งหน้าไปทางไหน
ขณะที่ฉากและเครื่องแต่งกายเรียกได้ว่ายิ่งใหญ่อลังการ แต่บรรยากาศส่วนใหญ่ในเรื่องเน้นความดาร์ก ผลลัพธ์ที่ได้คือไม่เห็นรายละเอียด และทำให้เรื่องราวดูมืดมนไปใหญ่ เมื่อผนวกกับที่คนดูต้องทำความเข้าใจเนื้อหามากกว่าปกติแล้วก็ยิ่งทำให้ไม่น่าติดตาม ที่สำคัญคือจุดขายของเรื่องกลับกลายเป็นปัญหานั่นคือเรื่องเซ็กซ์
ซีรีส์มีการใช้เรื่องเพศและเนื้อหนังมังสาของผู้หญิงมาดึงดูดความสนใจตั้งแต่เปิดเรื่อง รวมถึงฉากเซ็กซ์กระจัดกระจายอย่างไร้เหตุผล จริงอยู่ที่ราชินีอูยังใช้เซ็กซ์ในการควบคุมอำนาจ แต่กลายเป็นว่าไม่มีฉากเซ็กซ์ของเธอปรากฏ กลับแทนที่ด้วยความเข้มแข็ง เชิดชูความเป็นสตรี ในทางตรงกันข้ามกลับลดคุณค่าของตัวละครหญิงอื่นๆ ในเรื่องจนดูแล้วรู้สึกย้อนแย้ง
อย่างเช่นฉากของ ยอนบี (พัคโบคยอง) หัวหน้าเผ่าที่หวังจะชิงบัลลังก์ ก็ปรึกษาหารือกับเหล่าขุนนางขณะกำลังมีเซ็กซ์กับชายรับใช้ หรือฉากเซ็กซ์แบบเลสเบี้ยนอันยาวนานของ อูซุน (จองยูมี) พี่สาวของราชินีอู รวมทั้งในฉากองค์ชายสามหรือโกบัลกีมีเพศสัมพันธ์กับพระชายาก่อนจะลงดาบฆ่าเธอตาย ก็ดูงงๆ ว่าจะมีเซ็กซ์ก่อนทำไม ในเมื่อจะฆ่าให้ตายอยู่แล้ว
จนกระทั่งในพาร์ต 2 ก็เน้นไปที่ฉากแอ็กชันบนหลังม้า ว่าด้วยการไล่ล่าเอาชีวิตราชินีอูของกลุ่มพยัคฆ์ขาวผู้มาพร้อมห่าฝนลูกธนูกินเวลาไปเกือบจะ 1 อีพี ดูแล้วก็ตื่นเต้นดี แต่ก็ยาวเกินไป ขณะที่ควรจะเอาเวลาที่เหลือไปขยายปมต่างๆ มากกว่า แต่ก็อีกนั่นแหละ เพราะเนื้อหาที่ว่าด้วยการแย่งชิงอำนาจก็ไม่ได้มีความซับซ้อนใดๆ คนดูจึงเดาทางได้เกือบหมดตั้งแต่ต้น แถมยังเพิ่มตัวละครที่ดูไม่จำเป็นเข้ามาในเรื่องอีกต่างหาก
อีกหนึ่งปัญหาใหญ่คือบทราชินีอูเหมือนตั้งใจให้เธอเป็นผ้าขาวไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ขาดความทะเยอทะยานจนขาดเสน่ห์และขาดแรงจูงใจให้คนดูอยากเชียร์ให้พ้นชะตากรรม ทั้งที่ได้นักแสดงผู้เคยผ่านผลงานหลากหลายอย่างจอนจงซอมาร่วมงาน แต่ก็เหมือนใช้งานเธอได้ไม่คุ้มเลย ในขณะที่ฉากสุดท้ายที่คิดว่าจะยิ่งใหญ่อลังการกลับกลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นให้ถกเถียงกันว่าผู้สร้างต้องการสื่ออะไร ซึ่งออกมาเป็นอย่างไรต้องลองไปดูกัน
สรุปแล้ว Queen Wooคือผลงานที่น่าเสียดาย ด้วยวัตถุดิบชั้นดี แต่ผิดที่ฝีมือคนปรุงจนออกมาเป็นซีรีส์ที่ยังไม่โดนใจ ถ้ามองด้วยมาตรฐานทั่วไปก็เป็นซีรีส์ที่ดูได้ แต่ไม่มีอะไรให้จดจำ แต่ถ้าเทียบกับทุนสร้างแล้วก็ต้องบอกว่าไม่คุ้มเอาเสียเลย