ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวถึงสถานการณ์สงครามในยูเครน ระหว่างการประชุมแบบเปิดกับนักข่าวสายทหารและบล็อกเกอร์ที่มีการถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์วานนี้ (13 มิถุนายน) ซึ่งเขายืนยันว่าการสู้รบในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ฝ่ายยูเครนต้องประสบกับความสูญเสียขั้น ‘หายนะ’ โดยมีทหารบาดเจ็บล้มตายมากกว่ารัสเซียถึง 10 เท่า และยังไม่ประสบความสำเร็จในการโจมตีพื้นที่ใด อีกทั้งยังสูญเสียรถถังไปแล้ว 160 คัน และรถหุ้มเกราะต่างๆ ไปมากกว่า 360 คัน ในขณะที่กองทัพรัสเซียสูญเสียรถถังไปเพียง 54 คัน นับตั้งแต่ที่เคียฟเริ่มการบุกโจมตีสวนกลับครั้งใหม่ในพื้นที่แคว้นโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออก ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน
ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมากองทัพยูเครนอ้างว่าสามารถบุกยึดหลายหมู่บ้านคืนจากรัสเซียได้ในช่วงแรกของการโจมตีสวนกลับ ในขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ยกย่องการรุกคืบของกองกำลังทหารยูเครนที่เข้าใกล้พื้นที่เมืองบัคมุต ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในแคว้นโดเนตสก์ และชื่นชมแนวรบทางตอนใต้ที่สามารถรุกคืบขับไล่ทหารรัสเซีย
การเปิดเผยข้อมูลสถานการณ์สงครามของปูตินมีขึ้นหลังจากที่มีรายงานว่าเมื่อวานนี้ฝ่ายรัสเซียได้ระดมยิงขีปนาวุธโจมตีเมืองครีวิริก (Kryvyi Rih) ทางภาคกลาง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของประธานาธิบดีเซเลนสกี โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย และบาดเจ็บ 28 ราย
นอกจากนี้ ปูตินยังกล่าวถึงกรณียูเครนรุกรานข้ามชายแดน โดยโจมตีในหลายพื้นที่ ทั้งเมืองเบลโกรอด และบริเวณชายแดนอื่นๆ ของรัสเซียช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเขายืนยันว่ากองทัพรัสเซียจะหยุดการโจมตีดังกล่าว และหากเคียฟยังคงโจมตีอยู่อาจจะต้องพิจารณาสร้างพื้นที่พิเศษเพื่อป้องกันไม่ให้ยูเครนโจมตีดินแดนของรัสเซีย
ระหว่างการประชุมปูตินยังเผยว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องระดมกำลังพลเพิ่มเติมในตอนนี้ ซึ่งการระดมพลจะขึ้นอยู่กับว่ารัสเซียต้องการบรรลุเป้าหมายอะไรในการปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน
ขณะที่ปูตินกล่าวถึงคำถามที่ว่า รัสเซียควรพยายามบุกเข้ายึดกรุงเคียฟอีกครั้งหรือไม่ โดยระบุว่าเขาไม่มีคำตอบในเรื่องนี้ และชี้ว่าแผนการรบนั้นขึ้นอยู่กับศักยภาพของกองทัพ และยืนยันว่ารัสเซียไม่จำเป็นต้องทำตามยูเครนในการประกาศกฎอัยการศึกหรือใช้รูปแบบการปกครองแบบพิเศษระหว่างการทำสงครามในยูเครน
ภาพ: Gavriil Grigorov / SPUTNIK / AFP
อ้างอิง: