ปูตินประณามกราดยิงคอนเสิร์ตในรัสเซีย เสียชีวิตพุ่ง 133 คน เผยมือปืนพยายามหนีไปยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย แถลงผ่านทางโทรทัศน์วานนี้ (23 มีนาคม) ประณามการก่อเหตุกราดยิงในงานคอนเสิร์ตใกล้กรุงมอสโก จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 133 คน และบาดเจ็บมากกว่า 140 คน โดยระบุว่าเป็น ‘การกระทำของผู้ก่อการร้ายป่าเถื่อน’ พร้อมประกาศให้มีการไว้อาลัยทั่วประเทศเริ่มตั้งแต่วันนี้ (24 มีนาคม)

ปูตินยืนยันว่าทางการรัสเซียสามารถจับกุมมือปืนที่ก่อเหตุทั้งหมด 4 คนได้แล้ว โดยย้ำข้อมูลจากหน่วยงานความมั่นคงของรัสเซีย ว่าทั้งหมดพยายามที่จะหลบหนีไปยังยูเครน และประกาศคำมั่นว่าจะติดตามและลงโทษทุกคนที่รับผิดชอบการก่อเหตุ แต่ไม่ระบุถึงข้อมูลที่กลุ่ม IS ออกมาอ้างว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้

ก่อนหน้านี้ หน่วยความมั่นคงกลาง หรือ FSB ของรัสเซีย ยืนยันว่ามีผู้ถูกจับกุมหลังเกิดเหตุทั้งหมด 11 คน รวม 4 คนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการก่อเหตุ ซึ่งคณะกรรมการสืบสวนของรัสเซียเผยว่าถูกควบคุมตัวได้ในแคว้นเบรียนสก์ (Bryansk) ไม่ไกลจากชายแดนติดกับยูเครน พร้อมระบุว่า อาวุธที่ใช้กราดยิงถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้า

ด้านสำนักข่าว Amaq ของกลุ่ม IS ได้โพสต์ภาพผ่าน Telegram เป็นภาพชายสวมหน้ากาก 4 คน ที่อ้างว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการโจมตี และต่อมาได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการโจมตี แสดงให้เห็นเหตุการณ์ขณะที่มือปืนคนหนึ่งเปิดฉากยิงใส่ฝูงชน ซึ่งสำนักข่าว BBC ตรวจสอบแล้วว่าเป็นของจริง

ขณะที่ทางการรัสเซียยังไม่แสดงท่าทีใดๆ ต่อข้อกล่าวอ้างของ IS และคลิปที่ถูกเผยแพร่ดังกล่าว

สำนักข่าว Reuters รายงานว่าพบข้อบ่งชี้หลายอย่าง ว่ารัสเซียกำลังมองหาความเชื่อมโยงในการก่อเหตุกับยูเครน แม้ว่าก่อนหน้านี้ รัฐบาลยูเครนจะออกมาปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อเหตุที่เกิดขึ้น

โดยประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีของยูเครน แถลงช่วงค่ำวานนี้ กล่าวหาปูตินว่าพยายามที่จะ ‘กล่าวโทษ’ ยูเครนสำหรับการโจมตีครั้งนี้

“ปูตินผู้ไร้ค่าคนนี้ แทนที่จะจัดการกับพลเมืองรัสเซียของเขา กลับเงียบไปหนึ่งวัน และคิดว่าจะนำสิ่งนี้ไปโยงกับยูเครนได้อย่างไร”

‘กราดยิงเพื่อเงิน’

บรรณาธิการบริหารสำนักข่าว RT ของทางการรัสเซีย ได้โพสต์คลิปวิดีโอการสอบสวนหนึ่งในชายต้องสงสัยว่าเป็นมือปืน อ้างว่าเขาก่อเหตุยิงสังหารผู้คนหลังจากที่ได้รับคำสัญญาจากบุคคลหนึ่งว่าจะให้เงินเขา 500,000 รูเบิล หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 190,000 บาท โดยอ้างว่าบุคคลดังกล่าวซึ่งไม่ทราบชัดเจนว่าเป็นใคร ได้ติดต่อเขาทาง Telegram และมอบหมายคำสั่งแก่เขาว่าควรโจมตีที่ไหน และเขาได้รับคำสั่งให้ ‘ฆ่าคนที่อยู่ที่นั่น โดยไม่สำคัญว่าเป็นใคร’

ขณะที่ชายต้องสงสัยยังอ้างว่าการก่อการร้ายทั้งหมดเกิดขึ้นผ่านคำสั่งทาง Telegram โดยบุคคลที่สัญญาจะให้เงินนั้นเป็นผู้จัดหาอาวุธให้ทั้งหมด ซึ่งเขาได้รับเงินที่โอนเข้าบัญชีของเขาแล้วครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งจะได้รับภายหลัง

ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยของรัสเซียระบุว่า มือปืนทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ โดยสื่อบางสำนักรายงานว่ามือปืนบางคนเป็นชาวทาจิกิสถาน

อีกคลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดย RIA Novosti เผยให้เห็นชายต้องสงสัยอีกคนที่พูดภาษาทาจิกิสถานได้ และถูกสอบปากคำผ่านล่าม ซึ่งเขาบอกว่าได้หลบอยู่ในโฮสเทลแห่งหนึ่งร่วมกับมือปืนคนอื่นๆ หลังจากก่อเหตุเมื่อวันศุกร์ (22 มีนาคม) ที่ผ่านมา

ชายคนนี้อ้างว่า เขาได้สื่อสารกับหลายบุคคลที่ใช้ชื่อ อับดุลโล (Abdullo) และ มูฮัมหมัด (Muhammad) แต่ไม่ชัดเจนว่าหมายถึงใคร หรือเกี่ยวข้องกับกลุ่ม IS หรือไม่

นอกจากนี้ยังมีอีกคลิปวิดีโอ เป็นภาพของชายอีกคนหนึ่งที่บอกว่าตัวเองชื่อ ราจาบ อาลิซาเดห์ (Rajab Alizadeh) ซึ่งถูกทางการรัสเซียควบคุมตัวและสอบสวนในสภาพที่ใบหน้าและเสื้อเต็มไปด้วยเลือด และศีรษะถูกพันด้วยผ้าพันแผล ซึ่งผู้สอบสวนถามว่า “เมื่อคุณหนีจากมอสโก คุณมีอาวุธอยู่ คุณโยนมันทิ้งไว้ที่ไหน” ขณะที่เขากล่าวว่า “ที่ไหนสักแห่งริมถนน” แต่จำไม่ได้แน่ชัด

อย่างไรก็ตาม มีการเผยแพร่อีกคลิปวิดีโอที่ไม่ได้รับการยืนยันซึ่งมีการแชร์ทางออนไลน์ และเผยให้เห็นภาพของชายที่มีการคาดเดาว่าอาจเป็นอาลิซาเดห์ นอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้น ในขณะที่เจ้าหน้าที่รัสเซียตัดใบหูของเขา ซึ่งหากเป็นจริงก็จะเป็นคำตอบว่าทำไมในอีกคลิปศีรษะของเขาจึงถูกพันด้วยผ้าพันแผล

ภาพ: Sputnik/Mikhail Metzel/Pool via REUTERS

อ้างอิง: