หลังจากเหตุพายุเฮอร์ริเคนมารีอาที่พัดถล่มประเทศต่างๆ ในแถบทะเลแคริบเบียน โดยเฉพาะเปอร์โตริโก หนึ่งในดินแดนภายใต้อธิปไตยของสหรัฐอเมริกาเมื่อช่วงกลางเดือนกันยายน ปี 2017 ที่ผ่านมา ล่าสุดทีมนักสำรวจและวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดเผยตัวเลขคาดการณ์ที่ได้จากการสุ่มสำรวจกว่า 3,299 ครอบครัวในพื้นที่ประสบภัย พบว่ายอดผู้เสียชีวิตจากพายุเฮอร์ริเคนมารีอาในเปอร์โตริโกอาจสูงถึง 4,645 คน ซึ่งมากกว่ายอดผู้เสียชีวิตของทางการถึง 72 เท่า
พายุลูกดังกล่าวสร้างความเสียหายทั่วทั้งเปอร์โตริโก บ้านเรือนส่วนใหญ่พังเสียหาย ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ การเข้าถึงน้ำ อาหาร และสาธารณูปโภคต่างๆ ถูกตัดขาด พลเมืองจำนวนมากกลายเป็นคนพลัดถิ่น ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่จะถูกซักถามเกี่ยวกับการย้ายถิ่นที่อยู่ ผลกระทบด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และสาเหตุของการเสียชีวิต ซึ่งการเข้าไม่ถึงบริการทางด้านการแพทย์และการสาธารณสุขเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตที่เกิดจากผลพวงของพายุเฮอร์ริเคนมารีอาเพิ่มสูงขึ้น
ทีมนักสำรวจและวิจัยของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดยังระบุอีกว่า หากตัวเลขที่ได้จากการสำรวจดังกล่าวถูกต้อง พายุเฮอร์ริเคนมารีอาจะเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ตามสถิติจาก National Weather Service ต่อจากพายุเฮอร์ริเคนที่พัดถล่มเมืองกัลเวสตัน รัฐเท็กซัส เมื่อปี 1900 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากสุดราว 8,000 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 618 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2 หมื่นล้านบาท)
ขณะที่อันดับ 3 คือพายุเฮอร์ริเคนโอกีโชบี (Okeechobee Hurricane) ที่พัดถล่มฟลอริดาในปี 1928 มีผู้เสียชีวิตจากวาตภัยครั้งนั้นกว่า 2,500 คน ตามมาด้วยพายุเฮอร์ริเคนแคทรินาที่พัดถล่มลุยเซียนาและมิสซิสซิปปีอย่างหนักเมื่อปี 2005 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตสูงถึง 1,800 คน
อ้างอิง: