กระเเสเกมแนวใหม่เเละตลาด E-Sport กลายเป็นอีกหนึ่งวงการที่ได้รับความสนใจและน่าจับตามองอย่างต่อเนื่องหลังการเปิดตัวของ PUBG หรือ PlayerUnknown’s Battlegrounds เกมต่อสู้แนว Battle Royale สัญชาติเกาหลี นับตั้งเเต่ปี 2017 ที่ได้รับความนิยมถล่มทลายจากเหล่าเกมเมอร์ทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน
ล่าสุด ชางบยองกยู ชายวัย 48 ปี ผู้ก่อตั้งบริษัทเกม Krafton ซึ่งอยู่เบื้องหลัง PUBG วางแผนจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในเดือนนี้ โดยตั้งเป้าว่าจะสามารถทำมูลค่าจากหุ้น IPO อยู่ที่ 4.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.6 แสนล้านบาท ซึ่งว่ากันว่าจะเป็นการ IPO ที่ใหญ่ที่สุดในแดนกิมจิ
รายงานจาก Bloomberg ระบุว่า หาก Krafton สามารถ IPO ด้วยช่วงราคาสูงสุด จะทำให้ชางก้าวขึ้นมาเป็น ‘มหาเศรษฐี’ ด้วยสินทรัพย์ (Net Worth) ที่มีมูลค่ากว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.1 แสนล้านบาทด้วยกัน
ไม่ใช่แค่ชางเท่านั้นที่จะร่ำรวยขึ้นมา แต่หากการ IPO ในครั้งนี้เป็นไปได้สวยเหมือนที่คาดหวังไว้ จะสร้างมูลค่ามหาศาลให้กับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท เริ่มจาก คิมชางฮัน ซีอีโอของบริษัทที่จะเป็นเจ้าของหุ้นมูลค่ากว่า 336 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วย ชุงซึงฮเย ภรรยาของชาง จะมีหุ้นมูลค่า 206 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ Tencent ผู้จัดจำหน่ายเกม PUBG ในแดนมังกร มีสัดส่วนหุ้นอยู่ที่ 13% ซึ่งจะมีมูลค่าประมาณ 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ชางจะครองสัดส่วนที่ 14% ของหุ้นทั้งหมด
ก้าวประวัติศาสตร์อีกก้าวของ PUBG ที่ทำให้ชางขยับขึ้นมาอยู่ตำเเหน่ง ‘มหาเศรษฐีแสนล้าน’ ถือเป็นตัวอย่างล่าสุดที่สะท้อนขอบเขต ‘ความร่ำรวยนิยามใหม่’ ในสังคมเกาหลีใต้ที่ว่า ยุคนี้เจ้าของธุรกิจเทคโนโลยีที่สร้างเนื้อสร้างตัวมาด้วยตนเองกำลังครองตำแหน่งอันดับมหาเศรษฐีของแดนกิมจิ ไม่เหมือนยุคก่อนที่ส่วนใหญ่จะถูกครอบครองด้วยกลุ่มคนที่ร่ำรวยมาจากมรดกตกทอด หรือ ‘แชโบล’ (Chaebol) บริษัทขนาดใหญ่ที่หุ้นส่วนใหญ่ถูกถือครองโดยคนในครอบครัว ซึ่งแชโบลที่โด่งดังมากที่สุดคือกลุ่ม Samsung และ Hyundai
กว่า PUBG จะก้าวมาเป็นเกมระดับโลกที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในปัจจุบันนั้นมีเรื่องราวการก่อตั้งที่น่าสนใจ ย้อนกลับไปเมื่อปี 1997 ชางเด็กหนุ่มไฟแรงไม่กลัวล้ม ลงสนามลุยธุรกิจด้วยตัวเอง สร้างเครือข่ายแชทออนไลน์ควบคู่ไปกับการเรียนปริญญาเอก
ผลปรากฏว่าธุรกิจได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่วัยรุ่นสมัยนั้น ซึ่งดูเหมือนจะมีอนาคตที่สดใส แต่เเล้วเส้นทางธุรกิจที่ฝันก็ต้องหยุดชะงักเพราะชางต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารเป็นเวลากว่า 2 ปี
เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจรับใช้ชาติ ชางก็เริ่มก่อตั้งธุรกิจผู้ให้บริการ Search Engine (หรือโปรเเกรมค้นหา อาทิ Google) จากนั้นก็ได้ขายธุรกิจให้กับ Naver หนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ ซึ่งให้บริการเว็บท่า (Web Portal) และ Search Engine อันดับหนึ่งในประเทศ
หลังจากได้เงินทุนจากการขายธุรกิจมาก้อนใหญ่ เขาก็เริ่มตั้งหลักใหม่โดยการสร้างบริษัท Venture Capital (ธุรกิจร่วมลงทุนระยะยาว 3-5 ปี) พร้อมทั้งลงทุนกับ Startup ในช่วง Early Stage และในปี 2007 ได้ก่อตั้งบริษัท Bluehole ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Krafton ในเวลาต่อมา
ต่อมาในปี 2015 ชางเริ่มทยอยซื้อเกมสตูดิโออยู่หลายตัว รวมไปถึงเกมของ คิมชางฮัน ซีอีโอคนปัจจุบันของ Krafton ที่ตอนนั้นคิมได้นำเสนอไอเดียสร้างเกมออนไลน์แบบหลายผู้เล่นที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ญี่ปุ่น Battle Royale ซึ่งผู้เล่นนับร้อยจะเข้าสู่สนามรบพร้อมๆ กัน และคนที่รอดชีวิตเป็นคนสุดท้ายคือผู้กำชัยชนะ ซึ่งนี่นับเป็นก้าวเเรกของ PUBG โดยคิมเล่าว่าตอนนั้นเขารอการอนุมัตินานกว่า 3 เดือน และที่เหลือเชื่อกว่านั้นคือ ชางคิดว่าไอเดียนี้เพอร์เฟคเกินคำบรรยาย
หลังจากได้ไอเดียเกมที่เจ๋งโดนใจแล้ว ชางก็เดินหน้าลุยต่อ ดึง เบรนดัน กรีนนี เกมเมอร์และนักสร้างเกมชื่อดังชาวไอริชมานั่งตำเเหน่งผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเกม (Creative Director) จนได้คลอดเกม PlayerUnknown’s Battlegrounds ออกมาในปี 2017 ซึ่ง PlayerUnknown ก็มาจากฉายาของ เบรนดัน กรีนนี นี่เอง
โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาทางบริษัทก็ได้ประกาศความสำเร็จทำยอดขายเวอร์ชันของ PC และคอนโซลทะลุ 75 ล้านชุดแล้ว ยังไม่นับรวมเวอร์ชันโทรศัพท์ที่ทำยอดดาวน์โหลดเกมสูงที่สุดใน 150 ประเทศทั่วโลก และกว่า 94% ของรายได้ไตรมาสแรกของ Krafton มาจากยอดขายในตลาดต่างประเทศทั้งสิ้น
สำหรับชางแล้วการโลดแล่นอยู่บนตำเเหน่งมหาเศรษฐีนั้นคงจะไม่สมบูรณ์หากปราศจากผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุขที่เดินทางมาด้วยกัน เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาเขาจึงให้คำมั่นสัญญาว่าจะบริจาคหุ้นของเขามูลค่า 1 แสนล้านวอน หรือราว 2.8 พันล้านบาท ให้กับพนักงาน Krafton ถือเป็นขวัญกำลังใจให้กับความทุ่มเทของพนักงานทุกคนที่มีต่อบริษัท
เห็นได้ว่าความสำเร็จของ PUBG นั้นไม่ได้โรยมาด้วยเส้นทางที่สวยหรู มีเงินทองมากองไว้ให้ หากล้วนเกิดจากความทะเยอทะยานและมุ่งมั่นมาด้วยตัวเองทั้งนั้น
โดยชางนับเป็นมหาเศรษฐีที่รวยด้วยตัวเองคนล่าสุดของเกาหลีใต้ ซึ่งก็ไม่ลืมหัวใจของผู้ให้ที่จะแบ่งปันความร่ำรวยนี้ให้กับคนอื่น เหมือนมหาเศรษฐีรุ่นพี่อย่าง คิมบอมซู ผู้ก่อตั้งแอปฯ เเชท Kakao และ คิมบงจิน ผู้บริหาร Woowa Brothers แอปฯ ส่งอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ ที่ลงนามเข้าร่วมเป็นสมาชิกในโครงการสัญญาว่าจะให้ (The Giving Pledge) ก่อตั้งโดย บิล เกตส์ และ วอร์เรน บัฟเฟตต์ องค์การรณรงค์ให้เศรษฐีบริจาคทรัพย์ของตนโดยมากเพื่อการกุศล
พิสูจน์อักษร: นัฐฐา สอนกลิ่น
อ้างอิง:
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-06-21/pubg-owner-set-to-become-a-billionaire-after-krafton-s-mega-ipo?srnd=deals&sref=CVqPBMVg
- https://www.1belief.com/article/search-engines/
- https://www.facebook.com/MainStandTH/posts/695220444370987/
- https://thepeople.co/brendan-greene-pubg/
- https://th.wikipedia.org/wiki/เดอะกิฟวิงเพล็ดจ์
