บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC), บมจ.ไทยออยล์ (TOP) และ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยในกลุ่ม บมจ. ปตท. (PTT) ได้แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เกี่ยวกับการแต่งตั้งและเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง ‘กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการเงินและบัญชี (CFO)’ ของทั้ง 3 บริษัท ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564
โดยที่การแต่งตั้งในครั้งนี้เป็นการหมุนเวียนผู้บริหารในตำแหน่งดังกล่าวของทั้ง 3 บริษัท โดย PTTGC แต่งตั้ง ภัทรลดา สง่าแสง เป็นรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงินและบัญชี แทนที่ ทิติพงษ์ จุลพรศิริดี ซึ่งย้ายไปรับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน ของ GPSC แทนที่ วนิดา บุญภิรักษ์ ซึ่งย้ายไปรับตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่-ด้านการเงินและบัญชี ของ TOP
สำหรับแนวโน้มของหุ้นกลุ่มพลังงาน บล.บัวหลวง ประเมินว่า หุ้นในกลุ่มพลังงานที่เราวิเคราะห์ 7 บริษัท ได้แก่ PTT, บมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP), บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP), บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC), บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC), บมจ.บ้านปู (BANPU) และ TOP คาดจะรายงานผลประกอบการรวมเป็นกำไร 2.06 หมื่นล้านบาท ลดลง 28% จากปีก่อน (YoY) แต่เพิ่มขึ้น 36% จากไตรมาสก่อน (QoQ) ในส่วนของกำไรหลักเราคาดที่ 1.14 หมื่นล้านบาท ลดลง 62% YoY แต่เพิ่มขึ้น 23% QoQ
กำไรที่คาดลดลง YoY นั้นมาจากการดำเนินงานที่อ่อนตัวลงในทุกบริษัท ส่วนกำไรที่คาดฟื้นตัวขึ้น QoQ นั้นนำโดยการฟื้นตัวขึ้นของกลุ่มพลังงานต้นน้ำ คือ PTTEP และ PTT สำหรับกลุ่มโรงกลั่นคาดจะรายงานกำไรที่อ่อนตัวลงทุกบริษัท ยกเว้น IRPC
ราคาหุ้นปัจจุบันให้ส่วนลดจากค่าเฉลี่ยในอดีตในมุมของค่า P/BV อย่างมีนัย ซึ่งมองว่าได้สะท้อนผลประกอบการที่อ่อนแอในปีนี้ รวมถึงการปรับลดประมาณการกำไรไปมากแล้ว ยังคงเลือก PTT และ TOP เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
