×

PTT – แนวโน้มกำไร 3Q64 โตแกร่ง YoY จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ซึ่งหักล้างผลขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินบาทอ่อนค่า

04.11.2021
  • LOADING...
ptt

เกิดอะไรขึ้น:

SCBS ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 3Q64 ของ บมจ.ปตท. (PTT) ซึ่งคาดว่าจะประกาศในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น PTT ปรับตัวลง 3.8%MoM สู่ระดับ 37.50 บาท สวนทาง SET Index ที่ปรับตัวขึ้น 0.7%MoM สู่ระดับ 1,626.27 จุด (ข้อมูล ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2564)

 

มุมมองระยะสั้น:

SCBS คาดกำไรสุทธิ 3Q64 ของ PTT จะลดลง 5%QoQ สู่ 2.3 หมื่นล้านบาท เพราะกำไรสต๊อกลดลงและขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนสูงขึ้น แต่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้น 65%YoY เนื่องจากราคาน้ำมันสูงขึ้น ซึ่งหนุนให้กำไรของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 

 

นอกจากนี้กำไรจากบริษัทร่วมที่ประกอบธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่นน้ำมัน (P&R) ก็จะเพิ่มขึ้น โดยมีสาเหตุมาจากกำไรสต๊อกและราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่แข็งแกร่งมากขึ้น แต่เงินบาทที่อ่อนค่าใน 3Q64 จะส่งผลทำให้ PTT มีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 2.8 พันล้านบาท

 

ด้านธุรกิจก๊าซ SCBS คาดว่าปริมาณการขายก๊าซใน 3Q64 ของ PTT จะลดลง 5%YoY และ 11%QoQ สู่ 4,224mmcfd เทียบกับค่าเฉลี่ย 5 ปี ที่ 4,667mmcfd โดยมีสาเหตุมาจากความต้องการใช้ก๊าซในการผลิตไฟฟ้าที่ลดลง โดยเฉพาะโรงไฟฟ้า IPP เนื่องจากมีการจ่ายไฟฟ้ามากขึ้นจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำและโรงไฟฟ้า IPP ถ่านหิน ซึ่งเดินเครื่องเต็มกำลังการผลิตหลังจากหยุดซ่อมบำรุงใน 2Q64 

 

นอกจากนึ้ความต้องการใช้ก๊าซจากโรงแยกก๊าซ (GSP) ก็ลดลง 7%YoY และ 11%QoQ โดยมีสาเหตุมาจากการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนของ GSP#6 ซึ่งเป็นโรงแยกก๊าซใหญ่ที่สุดที่มีกำลังการผลิต 800mmcfd (30% ของกำลังการผลิตทั้งหมด) โดยกำไรของธุรกิจก๊าซจะได้รับผลกระทบจากราคา PE ที่ลดลง 4-9%QoQ (แต่ยังเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง YoY)

 

ธุรกิจน้ำมันได้รับผลกระทบจากความต้องการใช้น้ำมันที่ชะลอตัวลง ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของโควิดและมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดขึ้นใน 3Q64 โดยปริมาณการขายน้ำมันสำเร็จรูปลดลง 11%QoQ (อ้างอิงข้อมูลสถิติจากกระทรวงพลังงาน) ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น 3Q64 ของธุรกิจค้าปลีกน้ำมันจะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ เมื่อพิจารณาจากราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น และ Lag Time ในการปรับราคาขายปลีกน้ำมัน รวมถึงกำไรสต๊อกที่สูงขึ้น 

 

ทั้งนี้รัฐบาลไม่ได้เข้าแทรกแซงตลาดค้าปลีกน้ำมันจนถึงเดือนตุลาคม 2564 จึงตรึงราคาน้ำมันดีเซล โดย SCBS คาดว่าอัตรากำไรโดยรวมจะยังคงอยู่ที่ 1.2 บาทต่อลิตรใน 3Q64 โดยได้แรงหนุนส่วนหนึ่งจากกำไรสินค้าคงคลัง

 

ขณะที่ธุรกิจ E&P และ P&R จะยังคงช่วยสนับสนุนกำไรใน 3Q64 โดยคาดว่าราคาน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่แข็งแกร่งจะช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานของธุรกิจ E&P และธุรกิจ P&R อย่างต่อเนื่อง ซึ่ง บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ได้ประกาศผลประกอบการแล้ว โดยกำไรเติบโต YoY และ QoQ เพราะราคาขายเฉลี่ยสูงขึ้น 

 

นอกจากนี้ Market GRM ก็ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเดือนกันยายน 2564 โดยได้แรงหนุนจากความสมดุลของอุปสงค์และอุปทานในตลาดโลกที่ตึงตัว ซึ่งช่วยให้ Crack Spread ของน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นใน 3Q64 Crude Premium ที่ลดลงก็ช่วยสนับสนุนกำไรของธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งช่วยชดเชยกำไรสต๊อกที่ลดลง QoQ

 

มุมมองระยะยาว: 

ในระยะยาว PTT จะมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจก๊าซ ซึ่งมีกระแสเงินสดที่มีเสถียรภาพมากกว่าและอุปสงค์เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (PDP) ฉบับใหม่ยังคงกำหนดให้โรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่ให้กับประเทศไทยในระยะ 17 ปีข้างหน้า 

 

ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันภายใต้ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) มีแนวโน้มที่จะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของกำไร เมื่อพิจารณาจากแผนขยายสถานีบริการน้ำมันของบริษัท และรวมถึงธุรกิจใหม่ๆ มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจ Non-Oil อย่างอาหารและเครื่องดื่มมากขึ้น ซึ่งจะสนับสนุนให้สัดส่วนกำไรจากกลุ่มธุรกิจปรับตัวเพิ่มขึ้น 

 

นอกจากนี้ PTT ยังเร่งเดินหน้าตามแผนลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งรวมถึง Life Science และพลังงานใหม่ ภายใต้กลยุทธ์ New S-Curve ของบริษัทมากขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการพึ่งพาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อผลประกอบการที่ยั่งยืนขึ้น

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising