บมจ.พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น หรือ PTC กำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ในราคา 3.50 บาทต่อหุ้น เปิดให้นักลงทุนจองซื้อวันที่ 4-8 กุมภาพันธ์นี้ ผ่านโบรกเกอร์ 4 ราย คือ บล.ฟินันซ่า, บล.ฟินันเซีย ไซรัส, บล.เอเชีย เวลท์ และ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
จารีรัตน์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บล.ฟินันซ่า ในฐานะผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า บมจ.พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น หรือ PTC ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ 3.50 บาทต่อหุ้น
โดยจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในวันที่ 4-8 กุมภาพันธ์ 2565 โดย PTC ได้แต่งตั้ง บล.ฟินันซ่า จำกัด เป็นผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน พร้อมแต่งตั้ง บล. อีก 3 ราย เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ PTC ประกอบด้วย บล.ฟินันเซีย ไซรัส, บล.เอเชีย เวลท์ และ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)
ทั้งนี้ คาดว่าจะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนและซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้
PTC เป็นผู้นำในธุรกิจคลังน้ำมันพื้นที่ภาคอีสานตอนบน-ล่าง ซึ่งจากประสบการณ์ 20 ปีในการประกอบธุรกิจขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทางบกและสถานีบริการน้ำมัน ทำให้มีความเข้าใจในธุรกิจได้เป็นอย่างดี ส่งผลต่อการพัฒนาระบบห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของอุตสาหกรรมพลังงานให้มีประสิทธิภาพ
วรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า จุดเด่นของ PTC คือเป็นบริษัทคลังน้ำมันที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน และมีบทบาทสำคัญในการกระจายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับสถานีบริการน้ำมันครอบคลุมทั่วทั้งภาคอีสาน ด้วยที่ตั้งของคลังน้ำมันอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูง เป็นจุดยุทธศาสตร์ในการเชื่อมต่อระบบขนส่งน้ำมัน และเป็นจุดศูนย์กลางการกระจายน้ำมัน ส่งผลให้ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาสามารถทำรายได้เติบโตสม่ำเสมอ ขณะที่อัตรากำไรสุทธิและอัตรากำไรขั้นต้นยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องในระยะยาว
ปัจจุบัน PTC มีทุนจดทะเบียน 205 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท โดยมีทุนเรียกชำระแล้ว 150 ล้านบาท คิดเป็นหุ้นสามัญจำนวน 300 ล้านหุ้น และจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 110 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 26.83% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท
เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ประมาณ 385 ล้านบาท ใช้ในการชำระเงินกู้แก่สถาบันการเงินและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
วีรวัฒน์ บูรพพัฒนพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น หรือ PTC กล่าวว่า แผนธุรกิจใจอนาคตจะมุ่งสู่ 3 เป้าหมาย ดังนี้
- การเพิ่มประสิทธิภาพในการรับ-จ่ายน้ำมัน รองรับวิธีการขนส่งน้ำมันที่หลากหลาย โดยได้วางแผนสร้างจุดรับน้ำมันทางรถไฟที่คลังศรีสะเกษ เพื่อลดต้นทุนการขนส่งของลูกค้า จากปัจจุบันที่ให้บริการการรับน้ำมันทางรถบรรทุกเพียงทางเดียว พร้อมเพิ่มจำนวนสถานีบริการที่มารับน้ำมันจากคลังของบริษัทฯ
- มุ่งเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งมอบพลังงาน เพื่อให้ทุกพื้นที่มีโอกาสเข้าถึงพลังงานอย่างเท่าเทียมกัน
- เสริมธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนใหม่ในโครงการที่มีศักยภาพ อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน, โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน, โรงไฟฟ้าขยะ และโซลาร์ เพื่อกระจายฐานรายได้และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP