พฤกษา โฮลดิ้ง ปิดกำไรสุทธิไตรมาส 2 โต 141% ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 7,107 ล้านบาท ในครึ่งปีหลังเตรียมเปิดตัวโครงการเซกเมนต์พรีเมียมอีก 17 โครงการใหม่ พร้อมจัดตั้ง Medical Academy พัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ สร้างรายได้ใหม่ให้กับธุรกิจเฮลท์แคร์
“ในครึ่งปีหลังมีแผนเปิดโครงการรวม 17 โครงการ มูลค่า 19,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ ซึ่งจะช่วยยกระดับสินค้ากลุ่มพรีเมียมขึ้นเป็น 30%” อุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าว
สำหรับผลประกอบการของพฤกษา โฮลดิ้ง หรือ PSH ในไตรมาส 2 ปี 2566 ทำรายได้รวม 7,107 ล้านบาท เติบโต 32% ส่วนใหญ่มาจากการเติบโตของยอดขายทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจเฮลท์แคร์ ขณะที่กำไรสุทธิ 1,038 ล้านบาท เติบโต 141% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘พฤกษา’ ผนึก 3 พลังธุรกิจเรียลเอสเตท เฮลท์แคร์ และอีคอมเมิร์ซ ปรับเข็มทิศองค์กร มุ่งสร้างคุณค่าการอยู่อาศัยที่ ‘อยู่ดี มีสุข’
- เบื้องลึกเปลี่ยนขุนศึก ‘พฤกษา เรียลเอสเตท’ 8 ปี 3 ขุนพล ตามสไตล์ ‘คิดเร็ว ทำไว ใจร้อน ไม่ย้อนกลับหลัง’ ของบอสใหญ่ ‘ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์’
- เปิดเส้นทางการเติบโต ‘โรงพยาบาลวิมุต’ จากการดูแลผู้สูงอายุสู่แพลตฟอร์มดิจิทัลแบบไร้รอยต่อ
ส่วนในครึ่งปีแรกทำกำไรสุทธิ 1,690 ล้านบาท จากรายได้รวม 13,665 ล้านบาท โดยราว 700 ล้านบาท เป็นรายได้จากความสำเร็จในการ Swap หุ้นบริษัท อินโน พรีคาสท์ จำกัด ที่เป็นบริษัทย่อยของ PSH เพื่อนำไปลงทุนในหุ้นของบริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEL ที่เป็นโอกาสทางธุรกิจที่จะสร้างรายได้และการเติบโตที่แข็งแกร่งของทั้งสองบริษัท
ถึงกระนั้นกำไรของครึ่งปีแรกถ้าหักรายการพิเศษจากการ Swap หุ้นออก ธุรกิจหลักของกลุ่มก็ยังคงมีกำไรครึ่งปีแรกของปี 2566 เติบโตกว่า 10% จากปี 2565
ทั้งหมดสะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจของบริษัทได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี ทั้งยอดโอนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และด้านเฮลท์แคร์ที่มีการเติบโตที่สูงขึ้น รวมถึงยอดคำสั่งซื้อและติดตั้ง (Backlog) แผ่นพรีคาสท์คาร์บอนต่ำของอินโน พรีคาสท์ ก็สร้างรายได้กว่า 2,200 ล้านบาท สูงขึ้นเกินกว่าเท่าตัวจากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้เมื่อต้นปีที่ 1,000 ล้านบาท
เช่นเดียวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มียอดขาย 4,650 ล้านบาท เติบโต 4% จากไตรมาสก่อน มียอดโอน 5,650 ล้านบาท เติบโต 11% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นรายได้จากกลุ่มสินค้าแนวราบและการโอนคอนโดมิเนียม 6 โครงการต่อเนื่องมาจากช่วงต้นปี
พร้อมกับเปิดโครงการใหม่ 6 โครงการ มูลค่า 4,848 ล้านบาท ซึ่งจากการเปิดตัวโครงการ แชปเตอร์วัน ออล รามอินทรา ทำยอดขายได้มากกว่า 50% ได้รับการตอบรับอย่างดีทั้งจากคนไทยและต่างชาติ รวมถึงโครงการ พลัมคอนโด นิวเวสต์ ย่านบางใหญ่ สามารถทำยอดจองในวันพรีเซลที่ผ่านมาได้ถึง 580 ล้านบาท ด้วยทำเลที่ตั้งโครงการที่โดดเด่น ติดกับศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต ในราคาที่จับต้องได้ เริ่มต้นเพียง 1.59 ล้านบาท
และจากผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรก พฤกษาจึงได้พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลประจำปี 2566 ให้กับผู้ถือหุ้นได้ในอัตราหุ้นละ 0.31 บาท ถือเป็นอัตราผลตอบแทนที่แข่งขันได้ในตลาด กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นวันที่ 28 สิงหาคม 2566 จ่ายเงินปันผลวันที่ 8 กันยายน 2566
ด้านธุรกิจเฮลท์แคร์ในไตรมาส 2 ปี 2566 มีรายได้รวม 440 ล้านบาท เติบโต 117% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2565 รายได้รวมในครึ่งปีแรก 852 ล้านบาท โดยโรงพยาบาลวิมุตทำรายได้ที่ไม่รวมโควิดเติบโตขึ้น 77% สัดส่วนจำนวนผู้ป่วยใหม่เข้ารับการรักษากว่า 26%
จากนี้ตั้งเป้ายกระดับให้ได้ตามมาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ (HA) ในระดับ 3 ภายในไตรมาส 3 ปีนี้ และยังได้เปิดศูนย์ส่องกล้องและหน่วยเฉพาะทางการเคลื่อนไหวระบบทางเดินอาหาร รวมถึงขยายความร่วมมือระหว่างกลุ่ม โดยโรงพยาบาลวิมุตและเทพธารินทร์ได้เตรียมความพร้อมในการจัดตั้ง Medical Academy เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ และสร้างรายได้ใหม่ให้กับกลุ่ม