วานนี้ (8 มีนาคม) ขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ได้ลงนามในหนังสือด่วนที่สุดถึงหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) กำชับให้ปฏิบัติตามมาตรการเพื่อควบคุมฝุ่นละอองอย่างเคร่งครัด
ด้วยสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่งและปิด ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน เพื่อบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 และลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพอนามัยของประชาชน จึงให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดดำเนินมาตรการตามแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปี 2566 ดังนี้
- เข้มงวดตรวจวัด ตรวจจับรถยนต์ควันดำทุกประเภท ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามแผนที่กำหนด
- ประสานสถานีตำรวจท้องที่อำนวยการจราจรและกวดขันห้ามจอดรถในถนนสายหลัก-สายรองตลอดเวลา
- ขอความร่วมมือทำงานหรือปฏิบัติงานในที่พัก (Work from Home) ใช้รถเท่าที่จำเป็น ไม่ขับ…ช่วยดับเครื่อง
- ประชาสัมพันธ์ประชาชนให้บำรุงรักษาเครื่องยนต์ และลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว
- ควบคุมสถานประกอบกิจการในพื้นที่ไม่ให้ปล่อยมลพิษทางอากาศเกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด
- ขอความร่วมมือผู้ประกอบการ ทำ Big Cleaning บริเวณสถานที่ก่อสร้างและแพลนต์ปูน รวมถึงงดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองจากการก่อสร้างทุกประเภท
- เข้มงวดตรวจตราควบคุมไม่ให้มีการเผาขยะหรือการเผาในที่โล่งทุกประเภท
- ทุกสำนักงานเขตทำ Big Cleaning บริเวณที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่เขต และเพิ่มความถี่ในการล้างและดูดฝุ่นถนน ฉีดล้างต้นไม้ ใบไม้ และทำความสะอาดป้ายรถเมล์อย่างต่อเนื่อง
- ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ พร้อมแนะนำวิธีป้องกันสุขภาพอนามัยจากฝุ่นละออง PM2.5 ให้กับประชาชน และแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน AirBKK และเว็บไซต์ www.bangkokairquality.com www.air4bangkok.com และ www.prbangkok.com หากประชาชนเห็นแหล่งกำเนิดมลพิษ สามารถแจ้งเบาะแสผ่านทางแอปพลิเคชัน Traffy Fondue
- ออกหน่วยบริการสาธารณสุขและหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ คลินิกมลพิษทางอากาศ ดูแลสุขภาพประชาชน
- ดำเนินการตามมาตรการลดฝุ่นละออง PM2.5 ในโรงเรียนอย่างเคร่งครัด และลดผลกระทบต่อสุขภาพของนักเรียนในโรงเรียน
สำหรับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจที่มีสาเหตุมาจากฝุ่น PM2.5 สามารถเข้ารับการปรึกษาได้ที่คลินิกมลพิษทางอากาศ ณ โรงพยาบาลสังกัด กทม. 6 แห่ง ประกอบด้วย
โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโร อุทิศ
โรงพยาบาลกลาง
โรงพยาบาลตากสิน
โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์
โรงพยาบาลสิรินธร
โรงพยาบาลราชพิพัฒน์
ในเวลา 08.00-15.00 น. หรือขอรับคำปรึกษาผ่านสายด่วนสุขภาพ สำนักการแพทย์ กทม. โทร. 1646 ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง