กลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคนเข้าร่วมชุมนุมต่อต้านการเหยียดสีผิวและเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ จอร์จ ฟลอยด์ ที่เมืองบริสโตลของอังกฤษ เมื่อวานนี้ (7 มิถุนายน) โดยสถานการณ์ประท้วงเริ่มต้นอย่างสงบ ก่อนเกิดเหตุไม่คาดคิด หลังผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งช่วยกันโค่นรูปปั้นของ เอ็ดเวิร์ด โคลสตัน พ่อค้าทาส, สมาชิกรัฐสภา และผู้ใจบุญที่ได้รับการยกย่องจากชาวเมืองบริสโตลในยุคศตวรรษที่ 17 โดยผู้ประท้วงใช้เชือกคล้องและช่วยกันดึงรูปปั้นลงมากับพื้น ก่อนที่หลายคนจะกระโดดขึ้นไปเหยียบรูปปั้นและนำไปโยนทิ้งน้ำ ที่ท่าเรือบริเวณอ่าวบริสโตล ฮาร์เบอร์
รูปปั้นของ เอ็ดเวิร์ด โคลสตัน ตั้งตระหง่านอยู่บนถนนชื่อเดียวกับเขา คือโคลสตัน อเวนิว มาตั้งแต่ปี 1895 โดยตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่การทำงานทางการเมืองและการกุศลของโคลสตัน
ชื่อเสียงการเป็นพ่อค้าทาสรายใหญ่ของเขามาจากการร่วมธุรกิจค้าทาส โดยใช้เรือสินค้าส่งชาย หญิง และเด็ก ที่ถูกขายเป็นทาสในแอฟริกาตะวันตก ไปยังอเมริกาและประเทศแถบแคริบเบียนกว่า 84,000 คน ระหว่างปี 1672-1689 ซึ่งในระหว่างการเดินทางนั้นมีผู้เสียชีวิตกว่า 19,000 คน
การกระทำที่ถูกมองว่ากดขี่และทารุณทาสผิวสีชาวแอฟริกาและความมั่งคั่งที่มาจากการค้าทาสของโคลสตัน ทำให้เกิดข้อถกเถียงเรื่องการรื้อถอนรูปปั้นของเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชาวเมืองบางส่วนมองว่าประวัติศาสตร์นั้นเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่อีกส่วนสนับสนุนการโค่นรูปปั้นเพื่อต่อต้านการค้าทาส และประสบความสำเร็จในการผลักดันให้ลบชื่อของเขาออกจากถนน โรงเรียน และสถานที่หลายแห่งภายในเมือง
อย่างไรก็ตาม ก่อนเกิดเหตุนั้นพบว่ารูปปั้นถูกคลุมไว้ด้วยผ้าใบ เพื่อป้องกันผู้ประท้วงขว้างไข่หรือสิ่งของสร้างความเสียหาย แต่กลุ่มผู้ประท้วงหลายคนไม่สนใจและเข้าไปฉีกผ้าใบออก อ้างว่าเพื่อต้องการจ้องตาของรูปปั้น ก่อนจะใช้เชือกโค่นรูปปั้นลงมา ท่ามกลางเสียงตะโกนเชียร์ของผู้ชุมนุมที่สนับสนุนการกระทำ โดยมองว่าเป็นสัญลักษณ์การต่อสู้กับผู้ที่กดขี่ชาวผิวสีและแบ่งแยกเชื้อชาติ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
