เคล็ด (ไม่) ลับปกป้องเงินออม เตรียมรับศึกภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ในช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณภาวะถดถอย บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินหลายสำนักต่างออกมาแบ่งปันกลยุทธ์เคล็ดลับต่างๆ มากมาย เพื่อปกป้องเงินที่อดออมด้วยความยากลำบากที่จะสูญหายไปจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการแบ่งเงินออมไปลงทุนเพื่อให้มีช่องทางมีรายได้เสริมเข้ามาเพิ่มเติมนอกเหนือจากรายได้ประจำ

ทั้งนี้ สถานีโทรทัศน์ CNBC รายงานว่า เมื่อเทียบความเคลื่อนไหวของตลาดพันธบัตรกับวิกฤตการเงินในอดีตที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า แต่ละครั้งจะมีสัญญาณเตือนภาวะถดถอยที่คล้ายคลึงกัน นั่นคืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นกับระยะยาวเคลื่อนไหวไปคนละทาง

นอกจากนี้ คาร์ล ไอคาห์น นักลงทุนเลื่องชื่อและ โมฮัมเหม็ด เอล-อีเรียน นักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำ ต่างออกโรงเตือนให้นักลงทุนทั้งหลายเตรียมใจรับภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากสถานการณ์เงินเฟ้อที่รุนแรงอาจบีบให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับที่มากกว่าที่วางแผนกันไว้ จนเกรงว่าแม้จะหยุดเงินเฟ้อไม่ให้พุ่งสูงต่อไปได้ แต่จะเป็นการขวางการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แทน

เมื่อสถานการณ์มีแนวโน้มจะเข้าสู่ภาวะถดถอย งานนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินจึงออกมาแนะนำเคล็ดลับที่จะช่วยปกป้องเงินออมที่มีอยู่จากภาวะถดถอยนี้ 3 แนวทางด้วยกัน

ประการแรกคือ Drip Feed Investments (ลงทุนทีละน้อย)

ซาราห์ โคล์ส นักวิเคราะห์อาวุโสด้านการเงินส่วนบุคคลของ Hargreaves Lansdown แพลตฟอร์มด้านการลงทุนในอังกฤษ กล่าวว่า สำหรับนักออมอายุน้อย การลงทุนในตลาดหุ้นก้อนเล็กๆ เป็นเรื่องที่คุ้มค่าเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อในตลาด

โดยโคล์สย้ำว่า เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตได้อย่างแม่นยำ ภาวะถดถอยอาจจะเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ ดังนั้นการระงับการลงทุนเพราะสิ่งที่ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่ถือเป็นเรื่องหายนะอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ สำหรับใครก็ตามที่กังวลกับการนำเงินออมมาใช้ในการลงทุน โคล์สแนะนำว่าให้ลงทุนทีละน้อยตามแต่ที่กำลังของแต่ละคนจะรับไหว โดยมองหาโอกาสในตลาดแล้วลงทุน โดยให้กระจายการลงทุนในหลายๆ ตลาดแล้วแต่จะเห็นว่าสมควร คุ้มค่าตามข้อมูลที่ได้มีการศึกษามาเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ คนที่วางแผนลงทุนระยะสั้นไม่เกิน 5 ปี โคล์สก็แนะนำว่าเงินออมเหล่านี้ควรเก็บไว้ในรูปเงินสดด้วยการมองหาบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงเพื่อลดผลกระทบจากเงินเฟ้อ ก่อนเตือนว่าอย่าเสียเวลาคาดการณ์ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในระยะกลางหรือระยะยาว เพราะเป้าหมายของการออมระยะสั้นคือคว้าอัตราดอกเบี้ยที่ดีที่สุดในช่วงเวลานี้

ประการที่สองคือ Investing Amid Rising Rates (การลงทุนท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น)

วิทนีย์ สวีนีย์ (Whitney Sweeney) นักยุทธศาสตร์การลงทุนของ Schroders กล่าวว่า กุญแจสำคัญที่นักลงทุนควรจำให้ขึ้นใจก็คือการกระจายความเสี่ยงและความอดทนในการลงทุน

ความอดทนและการกระจายความเสี่ยงเป็นสิ่งจำเป็นต่อการเผชิญหน้ากับความผันผวนที่ยังคงมีอยู่ในตลาด ไม่ว่าจะเป็นกรณีสงครามยูเครนหรือ Fed ขึ้นดอกเบี้ย โดยการลงทุนท่ามกลางตลาดผันผวนแนะนำว่าสินค้าโภคภัณฑ์พร้อมกับหุ้น ‘มูลค่า’ และ ‘วัฏจักร’ เป็นหนึ่งในการลงทุนที่มีแนวโน้มว่าจะทำงานได้ดีที่สุดท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นนี้

ทั้งนี้ หุ้นมูลค่าคือบริษัทที่ซื้อขายในราคาที่ต่ำกว่าแม้จะมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพในการดำเนินการก็ตาม ส่วนหุ้นวัฏจักรคือบริษัทที่เห็นราคาหุ้นผันผวนตามวัฏจักรเศรษฐกิจ

และประการสุดท้ายคือ ‘Jury’s Still Out’ (อย่ากลัวที่จะลงทุน)

บรรดานักกลยุทธ์หลายสำนักกล่าวว่า แม้สถานการณ์ตลาดในขณะนี้จะค่อนข้างผันผวนและส่งสัญญาณถดถอยจนน่าหวั่นใจ แถม Fed ยังถอนมาตรการกระตุ้นออกจากตลาด แต่ก็ไม่ควรเป็นข้ออ้างที่จะไม่ลงทุน โดย อีริก เนลสัน นักกลยุทธ์เศรษฐกิจมหภาคของเวลส์ ฟาร์โก ระบุว่า การซื้อหุ้นเมื่อธนาคารกลางเริ่มดึงนโยบายผ่อนปรนกลับคืนมา มักจะให้ ‘ผลตอบแทนค่อนข้างแข็งแกร่ง’ เมื่อสิ้นสุดวัฏจักรที่ตึงตัว

ดังนั้น ในมุมมองของเนลสัน เวลานี้ยังไม่ควรเทขายหุ้นที่ตั้งใจถือไว้สำหรับออมระยะยาว หรือหากต้องการขายทำกำไรก็ควรรอท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ออกมากล่าวว่าจะใช้มาตรการเศรษฐกิจแบบปกติ ไม่จำเป็นต้องยกระดับคุมเข้มตลาดการเงินอีกต่อไป

อ้างอิง: