‘คลัง’ เผยมาตรการ ‘คนละครึ่ง’ มียอดใช้จ่ายรวมแล้วกว่า 4.33 หมื่นล้านบาท เตรียมเปิดให้ลงทะเบียนใน ‘เฟส 2’ เพิ่มอีก 5 ล้านคน วันที่ 16 มกราคมนี้
กุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ระบบการลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งระยะที่ 2 พร้อมเปิดรับลงทะเบียนสำหรับประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการเพิ่มเติมอีก 5 ล้านคนในวันพุธที่ 16 ธันวาคม 2563
โดยคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนจะต้องเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทย มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีบัตรประจำตัวประชาชน และไม่ใช่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. จนกว่าจะครบ 5 ล้านสิทธิ์ โดยผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์จากการไม่ใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่งระยะแรกสามารถลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งระยะที่ 2 ได้ สำหรับผู้ได้รับสิทธิ์โครงการคนละครึ่งกลุ่มเดิมสามารถกดปุ่มยืนยันการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งระยะที่ 2 ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังได้ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป
การลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการนี้มีขั้นตอนเช่นเดียวกับโครงการคนละครึ่งระยะแรก คือ
- ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com โดยกรอกข้อมูล ชื่อ-สกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน รหัสหลังบัตรประจำตัวประชาชน วันเดือนปีเกิด และเบอร์โทรศัพท์ที่จะติดตั้งแอปพลิเคชันเป๋าตัง
- รอรับ SMS แจ้งผลการลงทะเบียน
- ติดตั้งแอปพลิเคชันเป๋าตัง และยืนยันตัวตน
เมื่อดำเนินการครบก็สามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่ติดตั้งแอปพลิเคชันถุงเงินที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อรับสิทธิ์เงินร่วมจ่ายจากรัฐร้อยละ 50 แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 3,500 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม 2564 ระหว่างเวลา 06.00-23.00 น. ซึ่งผู้ได้รับสิทธิ์จะต้องเริ่มใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ตนได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิ์ หรือวันที่เปิดให้เริ่มใช้จ่ายตามโครงการ มิเช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิ์และไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก
สำหรับผู้ได้รับสิทธิ์โครงการคนละครึ่งกลุ่มเดิมสามารถกดปุ่มยืนยันการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งระยะที่ 2 ในแอปพลิเคชันเป๋าตัง โดยจะใช้จ่ายวงเงิน 3,000 บาทเดิมได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564 และใช้จ่ายวงเงินเพิ่มอีก 500 บาทได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม 2564 ซึ่งปุ่มยืนยันการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 จะปรากฏเตือนบนหน้าแอปพลิเคชันทุกครั้งจนกว่าผู้ได้รับสิทธิ์เดิมจะกดยืนยันรับสิทธิ์ และปุ่มดังกล่าวจะไม่มีวันหมดอายุ (แผนภาพตัวอย่างปุ่มยืนยันการเข้าร่วมโครงการสำหรับผู้ได้รับสิทธิ์เดิมปรากฏตามด้านล่าง)
ทั้งนี้ขอย้ำว่าผู้ใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่งระยะแรกและระยะที่ 2 จะไม่สามารถใช้สิทธิมาตรการช้อปดีมีคืนได้ ซึ่งเป็นไปตามหลักการที่จำแนกกลุ่มเป้าหมายของโครงการและมาตรการต่างๆ ไว้อย่างชัดเจนไม่ให้ซ้ำซ้อนลักลั่นกัน สำหรับผู้ประกอบการร้านค้ายังคงสมัครเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดของโครงการคนละครึ่ง ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2563 มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 9.7 แสนร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิ์แล้วจำนวน 9,537,093 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 43,330.80 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 22,156.50 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 21,174.3 ล้านบาท
โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา ชลบุรี เชียงใหม่ และนครศรีธรรมราช ตามลำดับ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า