สมาคมโรงพยาบาลเอกชนไขข้อข้องใจโรงพยาบาลสมาชิก ปมปัญหาจัดสรรและกระจายวัคซีนทางเลือก Moderna น้อยกว่ายอดจอง มั่นใจดำเนินการอย่างเหมาะสมตามหลักเกณฑ์การกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึงเพื่อให้ครอบคลุมทั้งประเทศ
จากกรณีโรงพยาบาลอินทรารัตน์ได้ประกาศคืนเงินค่ามัดจำวัคซีนทางเลือก Moderna ให้กับลูกค้า โดยระบุว่ามีสาเหตุเนื่องมาจากทางโรงพยาบาลได้รับการจัดสรรจากสมาคมโรงพยาบาลเอกชนไม่ครบตามที่สั่งจองไปนั้น นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ชี้แจงว่า ขบวนการพิจารณาและจัดสรรวัคซีนของสมาคมโรงพยาบาลเอกชนเป็นไปอย่างยุติธรรม ภายใต้หลักเกณฑ์การกระจายอย่างทั่วถึงและให้ครอบคลุมทั้งประเทศ ทำให้ปัจจุบันจะมีโรงพยาบาลจำนวน 194 แห่ง เท่านั้นที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนทั้ง 100% ตามยอดสั่งจอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงพยาบาลที่อยู่ในต่างจังหวัดและเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก
ขณะที่โรงพยาบาลในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงโรงพยาบาลขนาดใหญ่จำนวน 87 แห่ง จะได้รับการจัดสรรวัคซีนต่ำกว่ายอดจองทั้งสิ้น
“ไม่มีโรงพยาบาลไหนได้วัคซีนตามโควตาที่จองมาอยู่แล้ว โดยเฉพาะโรงพยาบาลขนาดใหญ่ อย่างของผมจองไปเยอะก็ได้มาแค่ล้านกว่าโดส ส่วนโรงพยาบาลนี้เขาจองมา 20,000 โดส ได้รับการจัดสรรไป 13,000 กว่าโดส ก็ต้องเข้าใจ ตอนนี้สมาชิกทั้งหมดของเราเข้าใจว่าจะไม่ได้ครบ ซึ่งจะต้องชี้แจงกับลูกค้า และถ้ามีลูกค้าจองมาเกินจำนวนวัคซีนที่ได้รับจัดสรร ก็จะต้องคืนเงินของลูกค้าส่วนที่เกินไป โรงพยาบาลสมาชิกต้องทำความเข้าใจเรื่องนี้กับลูกค้าของตัวเอง”
ก่อนหน้านี้โรงพยาบาลอินทรารัตน์ได้ส่งอีเมลรวมทั้งตอบคอมเมนต์ผ่านทางเพจ ชี้แจงลูกค้าบางคนเกี่ยวกับการคืนเงินมัดจำครั้งนี้ ระบุว่า “ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง เนื่องจากทางโรงพยาบาลได้รับการจัดสรรวัคซีน Moderna มาน้อยกว่าจำนวนที่สั่งจองไปกับทางองค์การเภสัชกรรม การจัดสรรวัคซีนนี้ ทางโรงพยาบาลไม่มีสิทธิ์โต้แย้งใดๆ เนื่องจากเป็นมติของสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งหลายโรงพยาบาลที่โดนตัดโควตาไปและได้รับจัดสรรมาน้อยกว่าจำนวนที่สั่งจองไปเช่นกัน ทางโรงพยาบาลสั่งจองไป 20,000 โดส เพียงพอสำหรับทุกท่าน แต่ได้รับจัดสรรมาเพียง 13,140 โดสจากทางสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งเป็นคนตัดสินว่าแต่ละโรงพยาบาลจะได้รับวัคซีนเท่าไหร ดังนั้น ทางโรงพยาบาลจึงมีความจำเป็นที่ต้องคืนเงินมัดจำให้กับลูกค้าบางท่าน”
จากการสำรวจความต้องการจองวัคซีน Moderna ของสมาชิกสมาคมโรงพยาบาลเอกชนในช่วงที่ผ่านมา พบว่าโรงพยาบาลจำนวน 277 แห่ง มียอดจองรวมทั้งสิ้น 9.2 ล้านโดส ขณะที่บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา ประเทศไทย สามารถจัดหาวัคซีนให้ได้ 4.9 ล้านโดส แบ่งเป็นการจัดสรรให้สภากาชาดไทย โรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลศิริราช รวมทั้งสิ้น 1.1 ล้านโดส ที่เหลือ 3.8 ล้านโดสจัดสรรให้กับสมาชิกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน
นพ.เฉลิม กล่าวว่าสมาคมโรงพยาบาลเอกชนยังยืดระยะเวลาการสำรวจความต้องการของสมาชิกในการจองวัคซีน Moderna ล็อต2 ที่จะมีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อโควิดกลายพันธุ์ได้ออกไปจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ เพื่อให้สมาชิกมีเวลาสำรวจและสอบถามความต้องการของลูกค้า หลังพบว่าในการจองวัคซีนล็อตแรก สมาชิกหลายแห่งสับสนและประเมินสถานการณ์แพร่ระบาดไม่ชัดเจน เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเคยเกิดขึ้นในประเทศไทย
ทั้งนี้ ภายหลังการสำรวจความต้องการรอบใหม่แล้วเสร็จ สมาคมโรงพยาบาลเอกชนคาดว่าจะมีการประสานงานกับองค์การเภสัชกรรมเพื่อจองซื้อวัคซีนทางเลือก Moderna ล็อต 2 ได้ในเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคมนี้ และเริ่มดำเนินการฉีดได้ในช่วงไตรมาส 2 หรือไตรมาส 3 ปีหน้า
“แม้ว่าวัคซีน Moderna ล็อต 2 จะมากลางปีหน้า แต่เราเชื่อว่าความต้องการของลูกค้า ของประชาชนยังมีอยู่เยอะมาก ในส่วนภาครัฐก็คงจะหาวัคซีนเพื่อฉีดให้ประชาชนในส่วนของภาครัฐไป แต่สำหรับวัคซีนทางเลือก ถึงตอนนั้นคิดว่าเราต้องมาพูดถึงเรื่อง Booster Dose เข็มที่ 3 กันแล้ว และต่อไปก็คงจะต้องฉีดกันทุกปีเหมือนวัคซีนไข้หวัดใหญ่” นพ.เฉลิมกล่าว