หลังใช้เวลาหลายวัน ในที่สุดปฏิบัติการกู้ภัยเพื่อกู้ร่างผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจีนจากเหตุเรือล่มกลางทะเลภูเก็ตก็สามารถปฏิบัติการได้สำเร็จเมื่อวานนี้
ล่าสุด พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทั้งไทยและจีนที่ร่วมกันปฏิบัติการกู้ร่างผู้เสียชีวิตรายสุดท้ายที่ติดอยู่ใต้ท้องเรือฟีนิกซ์กลางทะเลภูเก็ตได้สำเร็จหลังจากพยายามมาหลายวัน โดยที่ผ่านมารัฐบาลได้สนับสนุนการปฏิบัติงานทุกด้าน ทั้งการส่งเจ้าหน้าที่ประดาน้ำกองทัพเรือและหน่วยต่างๆ รวมทั้งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยและลำเลียงศพผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาหรือส่งกลับประเทศ
สำหรับการจัดการศพผู้เสียชีวิต 46 ศพที่พบก่อนหน้านี้นั้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ดูแลทุกขั้นตอนอย่างดีที่สุด โดยขณะนี้ได้ตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลเสร็จเรียบร้อยทั้งหมด พร้อมกับดำเนินการฌาปนกิจแล้ว 39 ศพ และส่งกลับประเทศจีนทั้งหมด 7 ราย ส่วนการให้ความช่วยเหลือเยียวยานั้น บริษัทประกัน 2 แห่งจะจ่ายเงินชดเชยแก่ญาติของผู้เสียชีวิตรายละ 1.1 ล้านบาท และกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติของรัฐบาลจ่ายสมทบอีกรายละ 1 ล้านบาท
ส่วนผู้บาดเจ็บจากเรือฟีนิกซ์และเรือเซเรนาต้าล่มนั้น บริษัทประกันจ่ายเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาลรวมแล้วไม่เกินรายละ 515,000 บาท และกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจ่ายสมทบอีกไม่เกินรายละ 5 แสนบาท
นายกฯ เน้นย้ำว่าเงินกองทุนที่รัฐบาลช่วยสมทบให้นั้นขอให้มองถึงอกเขาอกเรา เพราะเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทย เราต้องร่วมรับผิดชอบตามหลักมนุษยธรรม และหากเกิดขึ้นกับญาติของเราบ้าง เงินมากแค่ไหนก็ไม่อาจทดแทนชีวิตที่สูญเสียไปได้
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ทุกฝ่ายถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น การบังคับใช้กฎหมายเรื่องการตรวจเรือ มาตรฐานความปลอดภัยของเรือ ผู้ขับขี่เรือ ฯลฯ โดยจะต้องทำทุกอย่างอย่างเข้มงวดและต่อเนื่อง ไม่ใช่เฉพาะช่วงหลังเกิดเหตุเท่านั้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกประเทศเกิดความเชื่อมั่น
นายกฯ ระบุว่าวันนี้ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อให้เกิดความประทับใจและอุ่นใจ แต่ในระยะยาวนั้นธุรกิจท่องเที่ยวทุกประเภทจะต้องมีความปลอดภัยจริงๆ ทั้งเรือ เครื่องบิน รถบัส รถตู้ รถแท็กซี่ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวที่ดีและมีมาตรฐานอย่างครบวงจร
ทั้งนี้ข้อมูลจากสมาคมโรงแรมไทยภาคใต้เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบไปยังโรงแรมต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตที่เป็นสมาชิกของสมาคมกว่า 180 โรงแรม มี 19 โรงแรมที่แจ้งกลับมาแล้วว่านักท่องเที่ยวชาวจีนส่วนใหญ่ที่ได้จองห้องพักไว้ล่วงหน้าในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมได้แจ้งยกเลิกไปแล้วกว่า 7,300 ห้อง เหลือโรงแรมอีกจำนวนมากที่ไม่แจ้งกลับมา ถือว่าผลกระทบในครั้งนี้เป็นวงกว้างกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ และคาดการณ์ว่าจะส่งผลกระทบต่อเนื่องประมาณ 3 เดือนหลังจากนี้