วันนี้ (4 มิถุนายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนัก นายก รัฐมนตรี แถลงถึงข้อสั่งการ นายก รัฐมนตรีในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่า นายก ฯ เป็นห่วงพี่น้องแรงงานและผู้ประกอบการ พร้อมศึกษาEntertainment Complex สืบเนื่องมาจากเศรษฐกิจเติบโตไม่ได้ตามศักยภาพ จึงเกิดผลกระทบต่อภาคธุรกิจ รวมถึงโรงงานทั่วประเทศที่ปิดตัวลงหรือเลิกจ้างงาน จึงให้พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมดำเนินการเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน รวมถึงมาตรการเยียวยาทั้งผู้ประกอบการและแรงงานอย่างเหมาะสม โดยให้เร่งนำเสนอต่อ ครม. พิจารณาอนุมัติ
ชัยกล่าวอีกว่า สถานภาพการจ้างงานในไทยจะดูที่สัญญาณเตือนภัยด้านแรงงาน ซึ่งมี 3 ระดับ คือ ระดับสีเขียว เหลือง และแดง ซึ่งสัญญาณนี้จะคำนวณจากดัชนีทางเศรษฐกิจ 26 ตัว โดยตัวเลข 0-1.1 จะถือว่ายังอยู่สีเขียว ถ้าตัวเลข 1.1 ไม่เกิน 1.5 คือสีเหลือง เกินกว่า 1.5 ถือว่าเป็นสีแดง ล่าสุดปีนี้เราอยู่ที่ 0.03 ถือว่ายังค่อนข้างต่ำ
อย่างไรก็ตาม ชัยกล่าวว่า นายกฯ ไม่รอให้สถานการณ์เลยสีเขียว แม้สภาพการจ้างงานพยากรณ์ไป 12 เดือนข้างหน้ายังปกติ แต่นายกฯ ก็สั่งการให้รีบไปดูแลเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงพี่น้องแรงงานที่ถูกเลิกจ้างด้วยว่าจะมีแนวทางอย่างไร
เร่งรัด ‘คาสิโน’ ในไทย คาดเก็บภาษีปีแรกกว่าหมื่นล้าน
ชัยยังกล่าวถึงการติดตามการดำเนินการสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complexโดยสั่งการให้จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ไปดำเนินการศึกษาเร่งรัดเรื่องสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อให้มีแนวทางในการดำเนินการเป็นรูปธรรม ตลอดจนมอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ยกร่างกฎหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถานบันเทิงครบวงจร โดยนำร่าง พ.ร.บ. ฉบับที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ได้พิจารณามาประกอบความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามมติ ครม. ที่เคยมีไว้เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 พร้อมทั้งจัดทำแผนการออกกฎหมายลำดับรองลงไปที่เกี่ยวข้อง และให้นำเสนอ ครม. ในโอกาสต่อไป ทั้งนี้ให้เป็นไปตามขั้นตอนการเสนอกฎหมายตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
“Entertainment Complexมีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก เพราะถ้าพูดถึงมูลค่าของธุรกิจEntertainment Complex ทั่วโลกเมื่อปี 2565 มีมูลค่าสูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 54 ล้านล้านบาท และคาดว่าปี 2571 มูลค่าทางเศรษฐกิจจะเติบโตเป็น 2.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 79 ล้านล้านบาท ปัจจุบันประเทศหรือเขตบริหารพิเศษที่ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรใหญ่ที่สุดคือมาเก๊า ซึ่งมีประชากร 6.9 แสนคน แต่ทำธุรกิจได้ 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงมาก ลำดับรองลงมาคือลาสเวกัส 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ, สิงคโปร์ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ, เกาหลีใต้ 3.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ, ฟิลิปปินส์ 2.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ, เวียดนาม 1.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ, อินโดนีเซีย 1.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนไทย 0 บาท จะเห็นว่าประเทศในเอเชีย ในรอบบ้านเราไปไกลกว่าเราเยอะ นอกเหนือจากนี้ญี่ปุ่นมีแผนจะผุด Entertainment Complexขึ้นมาอีก 3 แห่งในเร็วๆ นี้ ทั้งโอซาก้า นางาซากิ และฟุกุโอกะ ไทยต้องเร่งหน่อยถ้าหากจะมีรายได้ทางนี้” ชัยกล่าว
ชัยกล่าวต่อว่า กมธ. ได้คำนวณเบื้องต้นว่าถ้าเรามีEntertainment Complex ลงทุนในไทย จะมีรายได้ไหลเข้ามามากมายมหาศาล และปีแรกจะสามารถเก็บภาษีได้ไม่น้อยกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท
ภาพ: ณาฌารัฐ ภักดีอาสา