วันนี้ (2 กันยายน) ที่สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง ธัญญา และนิฏฐา จันทร์โอชา บุตรสาวของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบอำนาจให้ อภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะทนายความประจำสำนักกฎหมาย อ.อัมพร ณ ตะกั่วทุ่ง และเพื่อน เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลและกลุ่มบุคคลที่เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง
อภิวัฒน์ได้เปิดเผยหนังสือชี้แจงข้อกล่าวหาในโซเชียลมีเดียภายใต้แฮชแท็ก #ตามหาลูกประยุทธ์ ที่เป็นกระแสสังคมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่ง ธัญญา จันทร์โอชา และนิฏฐา จันทร์โอชา ประสงค์ดำเนินการทางกฎหมายกับบุคคล คณะบุคคล นิติบุคคล หรือสื่อใดๆ ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จ ด่าทอ ให้ร้าย กล่าวหา คุกคาม หมิ่นประมาท เช่น การกล่าวหาว่าทั้งสองคนเปลี่ยนนามสกุลและอาศัยอย่างสุขสบายอยู่ในคฤหาสน์ที่ต่างประเทศ เป็นเส้นทางฟอกเงินของบิดาและอื่นๆ โดยปราศจากหลักฐานและไม่มีมูลความจริงเช่นนี้ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทั้งสองคนและวงศ์ตระกูล ถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง
ในหนังสือชี้แจงระบุอีกว่าทั้งสองคนไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการงานของบิดา ไม่เคยแสดงความคิดเห็นใดๆ ทางการเมือง วันนี้จำเป็นต้องปกป้องเกียรติยศ ศักดิ์ศรี สิทธิของตนเองและวงศ์ตระกูล จึงขอเรียนชี้แจงในประเด็นข้อกล่าวหาต่างๆ ซึ่งเป็นความเท็จทั้งสิ้น ดังนี้
- กล่าวหาว่ามีการเปลี่ยนมาใช้นามสกุลมารดาเพื่อทำเรื่องผิดกฎหมายต่างๆ เช่น ฟอกเงิน ขอวีซ่าเพื่อหนีไปอยู่ต่างประเทศ ฯลฯ
ข้อเท็จจริง: ไม่เคยมีการเปลี่ยนชื่อนามสกุลใดๆ ยังคงใช้ชื่อ ธัญญา จันทร์โอชา และนิฏฐา จันทร์โอชา ตั้งแต่กำเนิดจนถึงปัจจุบัน - กล่าวหาว่าไม่ได้อยู่ประเทศไทย
ข้อเท็จจริง: อยู่ประเทศไทยมาโดยตลอด ใช้ชีวิตปกติอย่างประชาชนคนไทยทั่วไป
- กล่าวหาว่าเรียนอยู่ประเทศออสเตรเลีย
ข้อเท็จจริง: ไม่เคยเรียนที่ประเทศออสเตรเลีย เคยเดินทางไปท่องเที่ยวเพียงครั้งเดียวเมื่อวัยเด็ก
- กล่าวหาว่าเรียนอยู่ต่างประเทศ
ข้อเท็จจริง: ทั้งสองคนเรียนจบชั้นประถมและมัธยมจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเรียนจบปริญญาตรีจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- กล่าวหาว่าสอบตกปริญญาโท อธิการบดีถูกกดดันให้รับเข้าเรียน
ข้อเท็จจริง: ไม่ได้เรียนปริญญาโทและไม่เคยสอบตก โดยเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายด้วยเกรดเฉลี่ย 4.00 และ 3.96 และเรียนจบปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับเกียรตินิยมอันดับ 2 ทั้งคู่
- กล่าวหาว่าปัจจุบันใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ที่ประเทศอังกฤษ โดยมีเจ้าสัวซื้อให้
ข้อเท็จจริง: ทั้งสองคนใช้ชีวิตตามปกติในประเทศไทย ไม่เคยพำนักอาศัยในประเทศอังกฤษหรือประเทศอื่นใดเป็นระยะเวลานาน ไม่เคยพักอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ใดๆ โดยทั้งสองได้เดินทางไปเที่ยวประเทศอังกฤษครั้งล่าสุดในปี 2558 ด้วยวีซ่าท่องเที่ยว โดยเข้าพักโรงแรมตามปกติ และทั้งสองได้มอบหลักฐานการเดินทางเข้าออกประเทศไทยให้กับพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว
- กล่าวหาว่ามีการฟอกเงิน โดยบิดาโอนเงินเข้าบัญชีลูกที่ต่างประเทศ
ข้อเท็จจริง: ทั้งสองคนไม่มีบัญชีธนาคารที่ต่างประเทศ มีเพียงบัญชีธนาคารในประเทศไทยเท่านั้น
- กล่าวหาว่าบิดาโอนเงินเข้าบัญชีลูกทั้งสองคนเพื่อฟอกเงินใดๆ
ข้อเท็จจริง: บิดาโอนเงินให้ตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่หรือความลับ มีการแจ้งต่อ ป.ป.ช. อย่างเปิดเผยตั้งแต่เมื่อครั้งรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2557 และยังปรากฏเป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อทั่วไปหลายครั้งแล้ว โดยเงินส่วนนี้มีที่มาจากการขายที่ดินของ พ.อ. ประพัฒน์ จันทร์โอชา (ปู่) และมีการแบ่งทรัพย์สินภายในครอบครัว ซึ่งที่ดินผืนนี้เป็นมรดกตกทอดของครอบครัวมามากกว่า 50 ปี
- กล่าวหาว่าเหตุใดจึงไม่เคยมีภาพหลุดออกมาในโซเชียลมีเดียใดๆ เลย แม้กระทั่งของเพื่อนยังไม่มีภาพ
ข้อเท็จจริง: ทั้งสองคนไม่มีบัญชีส่วนตัวในโซเชียลมีเดียใดๆ และกลุ่มเพื่อนที่ติดต่อกันก็เข้าใจในสิทธิความเป็นส่วนตัว จึงไม่เคยแชร์ภาพใดๆ และไม่ต้องการให้มีบุคคลใดนำภาพไปแอบอ้างใช้หาประโยชน์
- กล่าวหาว่าไม่เปิดเผยตัวเหมือนลูกนักการเมืองหรือลูกนายกรัฐมนตรีคนอื่นๆ
ข้อเท็จจริง: ทั้งสองคนใช้ชีวิตปกติเหมือนประชาชนคนไทยทั่วไป ไม่ได้ต้องการเป็นที่รู้จักหรือเปิดเผยตัวว่าเป็นลูกใคร เพราะไม่ต้องการได้รับอภิสิทธิ์หรือเพื่อรับผลประโยชน์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งของบิดา หากมีใครแอบอ้างว่ารู้จัก สามารถช่วยเหลือเพื่อรับผลประโยชน์ต่างๆ ได้ เป็นเรื่องเท็จทั้งหมด
โดยทนายชี้แจงว่า ธัญญา จันทร์โอชา และนิฏฐา จันทร์โอชา ต้องการใช้สิทธิทางกฎหมายโดยการฟ้องดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดกับผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จ ด่าทอ ให้ร้าย กล่าวหา คุกคาม หมิ่นประมาททั้งหมด ทั้งผู้ที่โพสต์และแชร์ในทุกช่องทางโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ยูทูบ ฯลฯ รวมถึงสื่อหรือพื้นที่สาธารณะอื่นๆ โดยไม่มีการยอมความใดๆ ทั้งสิ้น
โดยต้องการให้เป็นกรณีตัวอย่างและบรรทัดฐานของการใช้โซเชียลมีเดียในประเทศไทยว่าผู้ใดก็ตามไม่มีสิทธิเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ด่าทอ ให้ร้าย กล่าวหา คุกคาม หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยปราศจากหลักฐาน และในขณะเดียวกันก็ไม่ควรมีผู้ใดตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองจากการหลงเชื่อข้อมูลโดยขาดการไตร่ตรอง คิด วิเคราะห์ แยกแยะ เพียงเพราะความอคติและความเกลียดชังอีกต่อไป
ขณะที่ พล.ต.ต. สำเริง สวนทอง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวว่าขณะนี้ยังระบุไม่ได้ว่าจะต้องดำเนินคดีกับผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์หลักร้อยคนหรือไม่ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่ามีผู้ใดกระทำผิดบ้าง จากนี้อาจต้องตั้งคณะทำงานในระดับกองบังคับการ โดยอาจพิจารณาการทำงานกับหน่วยงานร่วม ทั้งนี้เพราะเป็นคดีที่น่าสนใจในหมู่ประชาชน และเพื่อสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ยืนยันว่าไม่มีความกดดัน ยอมรับว่าตนก็เพิ่งทราบชื่อลูกสาวของ พล.อ. ประยุทธ์ เพราะเจ้าตัวไม่ค่อยออกสื่อ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์