THE STANDARD ลงพื้นที่ตลาดคลองเตย สำรวจการซื้อขายข้าวสารประเภทข้าวเหนียวและข้าวเหนียวนึ่ง ที่มีการจำหน่ายให้กับประชาชนเพื่อซื้อไปประกอบอาหารทั้งคาวหวานและบริโภคในชีวิตประจำวัน พบว่าพ่อค้าแม่ค้าที่จำหน่ายข้าวสารยังคงต้องจำหน่ายข้าวในราคาต่อกิโลกรัมที่สูงเป็นประวัติการณ์ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา
โดยวันนี้ราคาข้าวเหนียวปรับตัวสูงขึ้นแตะ 50 บาทต่อกิโลกรัม สูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เรียกว่าราคาสูงกว่าข้าวหอมมะลิแล้ว
ขณะที่สาเหตุที่ทำให้ราคาข้าวเหนียวแพงนั้นมีหลายปัจจัย ทั้งในเรื่องของผลผลิตที่ออกมาน้อย หรือการเร่งหาซื้อข้าวเหนียวของผู้ส่งออกเพื่อส่งมอบให้กับลูกค้า
ปัจจุบันราคาข้าวเหนียวอยู่ที่ 50,000 บาทต่อตัน ขณะที่ข้าวหอมมะลิอยู่ที่ 35,000 บาทต่อตัน
ขณะที่การจำหน่ายข้าวเหนียวนึ่งตามร้านค้าทั่วไปประเภทร้านข้าวเหนียวส้มตำหรือร้านที่นึ่งข้าวสำหรับขายนั้น พ่อค้าแม่ค้าต้องปรับกลยุทธ์ในการขาย เช่น ขายราคาเท่าเดิม แต่ลดปริมาณลง หรือหากเป็นข้าวสต๊อกใหม่ที่ราคาแพงก็ต้องปรับราคาให้เท่ากับจำนวนปริมาณที่ขาย
ล่าสุด พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ออกมากำชับให้กระทรวงพาณิชย์เร่งแก้ไขปัญหาราคาข้าวเหนียวสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งขณะนี้ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในควบคุมไม่ให้มีการกักตุนข้าวเหนียวเพื่อตรึงราคาตั้งแต่วันนี้ (26 ส.ค.) เนื่องจากเป็นสินค้าควบคุม และให้หารือกับโรงสี ผู้ค้าข้าว และสหกรณ์ ในการผลิตข้าวเหนียวบรรจุถุงราคาพิเศษเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนโดยด่วน
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเปิดเผยด้วยว่าเรื่องนี้จะต้องวางแผนแก้ไขปัญหาในระยะต่อไปด้วย เพราะสาเหตุหลักมาจากภัยแล้ง ทำให้ผลผลิตออกมาน้อย แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายหลังผลผลิตฤดูกาลใหม่ออกมาช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์