ริก สกอตต์ ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ออกมาเรียกร้องให้ คริสโตเฟอร์ เรย์ ลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐฯ (FBI) เพื่อแสดงความรับผิดชอบหลังเอฟบีไอยอมรับว่าไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบการอย่างเหมาะสม กรณีที่ไม่ติดตามสืบสาวราวเรื่องหลังจากที่ได้รับแจ้งเตือนจากพลเมืองดีถึงพฤติกรรมรุนแรงของนิโคลัส ครูซ ก่อนที่เขาจะก่อเหตุกราดยิงที่โรงเรียนไฮสคูล มาร์จอรี สโตนแมน ดักลาส ในรัฐฟลอริดา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 17 คน
สกอตต์ ระบุในแถลงการณ์ว่า การที่เอฟบีไอล้มเหลวในการทำตามกฎระเบียบเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้นถือเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เพราะเราขอให้ประชาชนแจ้งตำรวจทันทีเมื่อพบความผิดปกติ แต่ตำรวจกลับเพิกเฉยไม่ทำอะไรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน จนนำไปสู่โศกนาฏกรรมเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เพราะฉะนั้นผู้อำนวยการเอฟบีไอจึงสมควรลาออก
ก่อนหน้านี้เอฟบีไอออกแถลงการณ์ยอมรับว่า มีคนใกล้ชิดกับครูซคนหนึ่งได้โทรแจ้ง ตำรวจตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ว่า ครูซมีปืนและต้องการฆ่าคน ทั้งยังมีพฤติกรรมที่ไม่มั่นคงและโพสต์ข้อความที่ชวนให้กังวลใจบนสื่อโซเชียลมีเดีย แต่ตำรวจกลับไม่ได้สืบสวนอะไรเพิ่มเติมในเวลานั้น ถึงแม้ว่าข้อมูลเหล่านี้จะเข้าข่ายความเสี่ยงที่เป็นอันตรายต่อชีวิตของประชาชนก็ตาม
เอฟบีไอยังกล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย พร้อมกับให้คำมั่นว่าเจ้าหน้าที่ของเอฟบีไอทุกคนทั้งชายและหญิงจะอุทิศตนเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน และจะปรับปรุงการทำงาน รวมถึงแนวทางปฏิบัติด้วย
ด้าน เจฟฟ์ เซสชันส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ได้สั่งการให้หน่วยงานในกระทรวงและเอฟบีไอ ทบทวนวิธีการตอบสนองต่อสิ่งที่บ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่างๆ
ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ระบุด้วยว่า ผู้บริสุทธิ์ 17 คนต้องตายไปเพราะความผิดพลาด คำขอโทษไม่อาจทำให้พวกเขาฟื้นคืนชีพ หรือทำให้ครอบครัวของเหยื่อพ้นจากความเจ็บปวดได้ ครอบครัวของพวกเขาจะใช้ชีวิตที่เหลือด้วยความคับข้องใจว่าเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร และคำขอโทษนี้ก็ไม่อาจช่วยไขความข้องใจของพวกเขาได้
ทั้งนี้ นิโคลัส ครูซ วัย 19 ปี ถูกตั้งข้อหาฆ่าคนโดยไตร่ตรองไว้ก่อนรวม 17 กระทง หลังใช้ปืน AR-15 กราดยิงที่โรงเรียนมาร์จอรี สโตนแมน ดักลาส ในเมืองพาร์กแลนด์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 17 คน และบาดเจ็บอีก 15 คน โดยเจ้าตัวได้ให้การสารภาพทั้งหมด
หลังเกิดเหตุตำรวจได้ตรวจสอบประวัติการใช้สื่อดิจิทัลของครูซ และพบว่ามีข้อความหรือโพสต์ที่บ่งชี้ว่าเขามีพฤติกรรมเหยียดผิวและเชื้อชาติมุสลิม นอกจากนี้เขายังเป็นพวกคลั่งคนขาวแบบสุดโต่ง (white supremacist) ด้วย
อ้างอิง:
