เมื่อคืนที่ผ่านมา (15 พฤศจิกายน) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เซ็นผ่านร่างกฎหมาย ‘โครงสร้างขั้นพื้นฐาน’ มูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวมีเนื้อหาที่เกี่ยวพันไปถึงการตรวจสอบการทำธุรกรรมและการเก็บภาษีที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีด้วย
ประเด็นนี้ได้สร้างความกังวลให้กับตลาดคริปโตเคอร์เรนซี ส่งผลต่อราคาเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีต่างๆ ในเช้าวันนี้ (16พฤศจิกายน) โดยราคา Bitcoin ร่วงลงไปราว 8%
ร่างกฎหมายดังกล่าวจะมีการนำไปบังคับใช้กับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งได้กำหนดให้โบรกเกอร์ หรือแพลตฟอร์มที่เป็นศูนย์การแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ต้องรายงานต่อสรรพากร สำหรับธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลใดๆ ที่มูลค่ามากกว่า 10,000 ดอลลาร์ หรือราว 300,000 บาท
แต่ถึงอย่างนั้นเอง ทางผู้เสนอจากฝั่งของคนในอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีก็มองว่าคำจำกัดความในตัวกฎหมายนั้นยังกว้างจนเกินไป ซึ่งไม่สามารถครอบคลุมกลุ่มนักขุดหรือนักพัฒนาด้านฮาร์ดแวร์ ที่ไม่ต้องรายงานธุรกรรม
นอกจากนี้ ทาง ชีฮาน จันทราศรีคีรา หัวหน้าฝ่ายด้านกลยุทธ์ภาษีเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีที่ CoinTracker ชี้ว่า การมองในฝั่งของกฎหมายอาจจะยังมีประเด็นที่ไม่ชัดเจน อย่างประเด็นการโอนเงินไป-กลับของบัญชีหรือกระเป๋าส่วนตัวของนักลงทุน กับวอลเล็ตที่เปิดกับทางบริษัทที่เป็นแพลตฟอร์มเทรด (Exchange) นั้น จะไม่สามารถทราบต้นทุนที่แน่ชัดของนักลงทุนได้เลย ทำให้ผู้ตรวจสอบไม่สามารถทราบถึงกำไรที่ทำได้จาก DeFi (การเงินไร้ศูนย์กลาง) ของนักลงทุน เมื่อมีการโอนเงินกลับ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดและความไม่แม่นยำในการรายงานภาษีได้อย่างแน่นอน
ทางวุฒิสมาชิก ซินเทีย ลูมมิซ และคณะ มีความพยายามที่จะเข้าเสนอการแก้ไข เพื่อจำกัดความกับตัวกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีให้รัดกุมและจำเพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเธอมีความมุ่งหวังที่จะสนับสนุนให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมา และไม่ต้องการให้ตัวกฎหมายไปขัดขวางการเติบโตของอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี
จากประเด็นดังกล่าว ทำให้ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเกิดความกังวลและปรับตัวลดลงไปด้วย โดย Bitcoin (BTC) ลงไปเคลื่อนไหวที่ระดับ 60,998 ดอลลาร์ ซึ่งปรับตัวจากวันก่อนกว่า -8%, Ethereum (ETH) เคลื่อนไหวที่ระดับราว 4,337 ดอลลาร์ ปรับตัวลงกว่า 7.93%, ในขณะที่ Binance Coin (BNB) เคลื่อนไหวที่ระดับราว 609 ดอลลาร์ ปรับตัวจากวันก่อน 6.93%
อ้างอิง: