จากลีกที่ลงแข่งขันอย่างมั่นใจมาตั้งแต่เปิดฤดูกาลกับการคืน ‘When Saturday Comes’ หรือวัฒนธรรมในการเข้าชมเกมฟุตบอลที่สนามในวันเสาร์ซึ่งเป็นความสุขของชาวอังกฤษ วันนี้อาจกล่าวได้ว่าสถานการณ์นั้นย้อนกลับไปใกล้เคียงกับในช่วงก่อนการล็อกดาวน์เมื่อเดือนมีนาคม 2020
สิ่งที่น่าสนใจคือการระบาดของโควิดซึ่งยังไม่มีการระบุว่าเป็นสายพันธุ์เดลตา หรือสายพันธุ์ใหม่อย่างโอไมครอน ในสโมสรต่างๆ โดยเฉพาะในระดับพรีเมียร์ลีกซึ่งถูกจับจ้องมากที่สุดในเวลานี้ถือว่ารุนแรงอย่างมาก และอาจจะมากที่สุดนับตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสโควิดเลยทีเดียว
ตลอดระยะเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีการเลื่อนการแข่งขันออกไปถึง 10 คู่ และอาจจะมากกว่านี้ด้วย หากพรีเมียร์ลีกไม่ปฏิเสธเชลซีที่ขอเลื่อนเกมที่จะพบกับวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ออกไปในวันอาทิตย์ (19 ธันวาคม) ที่ผ่านมา
ขณะที่สโมสรที่ทำการลงแข่งขันกันได้ มากบ้างน้อยบ้าง จะมีผู้เล่นที่หายหน้าหายตาไปจากทีม และบางครั้งก็ส่งผลกระทบต่อทีมอย่างมาก เหมือนลิเวอร์พูลที่ขาดกองกลางตัวหลักอย่าง ฟาบินโญ, ติอาโก อัลกันตารา และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน รวมถึง เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เสาหลักในแนวรับไปแบบครบเซ็ต จนเห็นผลได้ชัดในเกมที่เสมอกับท็อตแนม ฮอตสเปอร์
สถานการณ์นี้หากไม่ใช่ก็นับว่าใกล้เคียงกับคำว่าวิกฤตอย่างมาก และนำไปสู่การประชุมใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ (20 ธันวาคม)
- การประชุมในวันนี้พรีเมียร์ลีกได้เชิญเจ้าของสโมสรและผู้จัดการทีมของสโมสรทั้ง 20 แห่งมาหารือร่วมกัน เพื่อประเมินสถานการณ์และแนวทางในการรับมือกับการระบาดของโควิด
- 4 หัวข้อหลักที่จะมีการถกเถียงกัน ได้แก่ เรื่องของวัคซีนกับนักฟุตบอล เรื่องมาตรการเกี่ยวกับการป้องกันการระบาดของโควิดโอไมครอน การเลื่อนการแข่งขัน และการจัดการแข่งขันใหม่ในเกมที่ถูกเลื่อนออกไป
- เรื่องที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือเรื่องการเสนอให้เลื่อนโปรแกรมการแข่งขันในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ซึ่งเป็นช่วงไฮไลต์ของฤดูกาลที่จะมีการแข่งขันชุก อัดแน่นเต็มทุกวัน โดยแต่ละทีมจะต้องลงสนามกัน 3 นัดในช่วงตั้งแต่วัน ‘บ็อกซิ่งเดย์’ (26 ธันวาคม) ไปจนถึงหลังเข้าสู่ปี 2022
- โดยนัดที่ 19 (Gameweeks 19) จะมีในวันที่ 26-27 ธันวาคม จากนั้นคือเกมนัดที่ 20 (28-30 ธันวาคม) และเกมนัดที่ 21 (1-3 มกราคม)
- ปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาคือพรีเมียร์ลีกไม่มีความชัดเจนมากเกี่ยวกับเรื่องการตัดสินใจเลื่อนเกม ทำให้เกิดคำถามจากผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่างผู้จัดการทีมต่างๆ ว่าตกลงแล้ว ‘เกณฑ์’ ในการที่จะให้เลื่อนการแข่งขันในเวลานี้เป็นอย่างไร เพราะพรีเมียร์ลีกชี้แจงในการตัดสินใจเพียงแค่ ‘ดูเป็นกรณีไป’
- ความโปร่งใสในการตัดสินใจจึงเป็นอีกเรื่องสำคัญที่มีการเรียกร้องให้จัดการให้ถูกต้อง และที่สำคัญคือคราวนี้ทุกคนต้องยอมรับ ‘กติกาเดียวกัน’
- ความจริงแล้วก่อนเริ่มต้นฤดูกาลจะมีการตกลงกันแล้วว่าหากมีจำนวนผู้เล่นรวมตัวสำรองมากพอที่จะส่งลงสนามได้ก็ต้องลงเล่นโดยไม่มีเงื่อนไข เพียงแต่เกิดคำถามขึ้นเพราะบางทีมกลับขอเลื่อนการแข่งออกไปได้ แต่บางทีมกลับทำไม่ได้
- การระบาดของโควิดที่รุนแรงขึ้นและยังไม่มีทีท่าจะแผ่วลงทำให้ผู้จัดการทีมต่างๆ เริ่มพะวงว่าจะไม่สามารถจัดทีมลงสนามได้เต็มที่ จริงอยู่ที่อาจจะใช้ผู้เล่นระดับเยาวชนได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับลีกที่ดีที่สุดในโลก
- สำหรับการประชุมวันนี้พรีเมียร์ลีกจะยืนยันต่อทุกสโมสรในการอยากให้การแข่งขันดำเนินต่อไปตราบเท่าที่ยังปลอดภัยอยู่
- อย่างไรก็ดี เรื่องของสุขภาพและความปลอดภัยของผู้เล่นและสตาฟฟ์ในสโมสรทุกคนคือสิ่งสำคัญลำดับแรก
- ช่วงโปรแกรมที่ถูกคาดหมายว่าจะมีการเลื่อนออกไปตามการรายงานของ The Athletic คือเกมนัดที่ 20 ในระหว่างวันที่ 28-30 ธันวาคมนี้
- เหตุผลที่จะเลื่อนเกมนัดนี้ออกไปไม่ใช่นัดที่ 19 ในช่วงวันบ็อกซิ่งเดย์ เป็นเพราะนัดที่ 20 นั้นสัญญาในสหราชอาณาจักรเป็นของ Amazon ไม่ใช่เจ้าใหญ่อย่าง Sky Sports
- ในสัญญาที่ Amazon ผู้ให้บริการ OTT รายใหญ่ซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดของฟุตบอลพรีเมียร์ลีกไว้มีมูลค่า 30 ล้านปอนด์สำหรับการถ่ายทอดสดเกม 20 นัด (2 Gameweeks) โดยในสัญญาระบุว่าจะต้องถ่ายทอดสดครบทั้ง 20 ทีม
- ดังนั้นหากเลื่อนเกมที่ 20 ออกไปจริงพรีเมียร์ลีกจะต้องจ่ายค่าเสียหายคืนให้แก่ Amazon เพียงแต่เมื่อมองความเป็นไปได้แล้วเป็นนัดที่มีโอกาสมากที่สุด
- แต่สุดท้ายแล้วพรีเมียร์ลีกจะมีการเลื่อนหรือไม่ จะดำเนินการอย่างไรต่อ และจะมีการชดเชยอย่างไร ต้องรอผลจากการประชุมที่จะเริ่มในเวลา 13.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น)
อ้างอิง: