หลังจากเมื่อวานนี้ (13 ก.พ.) มีการลงพื้นที่ตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติม และจำลองเหตุการณ์บริเวณลำห้วยประชิ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่คณะของนายเปรมชัยไปตั้งแคมป์ล่าสัตว์เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา
ล่าสุดนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 7 คน และพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบอีกครั้ง พบร่องรอยคราบเลือด ขนเสือ และกองขี้เสือ ที่เจ้าหน้าที่ระบุว่ามีความผิดปกติ เพราะเป็นการขี้โดยไม่ฝังกลบ ซึ่งไม่ใช่วิสัยของสัตว์ตระกูลแมว จึงเป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากการบาดเจ็บ ซึ่งชุดพิสูจน์หลักฐานได้เก็บไปตรวจพิสูจน์ต่อแล้ว อีกทั้งยังพบชิ้นส่วนเขียงพลาสติกที่อยู่ไม่ไกลจากจุดตั้งแคมป์ของคณะนายเปรมชัย ซึ่งชุดพิสูจน์หลักฐานได้นำไปตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอด้วย
นอกจากนี้ในวันเดียวกัน ยังมีการตรวจสอบที่ดินและการได้มาของเอกสารสิทธิ์ที่ดิน รังเย็นรีสอร์ท จ.เลย ซึ่งนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) มีชื่อเป็นกรรมการ
โดยนายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยกากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยความคืบหน้าว่า การออกโฉนดที่ดินน่าจะไม่ถูกต้อง ซึ่งจะต้องมีการดำเนินคดีข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่า ซึ่งเป็นพื้นที่ทั้งหมด 5,615 ไร่
จากการตรวจสอบเอกสารการครอบครองพบว่า ที่ดินดังกล่าวถูกเพิกถอนเอกสารสิทธิ นส.3 ก แล้ว 147 แปลง เนื้อที่รวมมากกว่า 1,000 ไร่ กรมที่ดินได้ทำหนังสือแจ้งบริษัท นิติบุคคล ชื่อ ‘ซี.พี.เค.อินเตอร์เนชั่นแนล’ เรื่องเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ที่ดิน (นส.3 ก) แล้วเมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2546 ซึ่งการบริหารของบริษัทมีนายเปรมชัย กรรณสูต เป็นประธานกรรมการร่วมอยู่ด้วย และวันนี้ (14 ก.พ.) จะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้ง
ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเปือย ภูขี้เถ้า และภูเรือ รวม 947,000 ไร่ แต่ไม่ควบรวมบริเวณดังกล่าว ทำให้รังเย็นรีสอร์ทเป็นป่าตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 และบริเวณดังกล่าวมีความลาดเอียง เนินเขา มีเอกสารสิทธิ์เป็น นส.3 ก ส่วนที่เป็นอ่างเก็บน้ำ จึงต้องตรวจสอบว่าปิดขวางทางน้ำตามธรรมชาติหรือไม่ การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำมีใบขออนุญาตการก่อสร้างหรือไม่ ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบว่าตรงตามเอกสารหรือไม่ และตรวจสอบเอกสาร นส.3 ก ว่าได้มาถูกต้องตามขั้นตอนกฎหมายหรือไม่
