วันนี้ (9 กุมภาพันธ์) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงรายงานความคืบหน้าคดีวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ว่าได้ส่งฟ้องร้องคดีใหม่และออกหมายแดงจับกุมไปแล้ว จึงขอให้ติดตามข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการติดตามถึงมีความก้าวหน้าตามประสานงานกับต่างประเทศดำเนินการไปครบแล้ว เหลือเพียงเมื่อไรจะได้ตัวกลับมาดำเนินคดี ยืนยันไม่ได้นิ่งนอนใจหรือเก็บเรื่องไว้ในกระเป๋า พร้อมย้ำว่าทุกเรื่องนายกรัฐมนตรีได้เอามาดำเนินการหมด รวมถึงคดีอื่นก็มีความคืบหน้า แต่ย้ำว่าทุกเรื่องต้องเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย
พล.อ. ประยุทธ์ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยยืนยันว่าล็อตแรกจะส่งมาถึงประเทศไทยปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ 2 แสนโดส มีนาคมอีก 8 แสนโดส และเมษายนอีก 1ล้านโดส ตามที่ได้รับยืนยันมา ซึ่งคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของไทย จะดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อฉีดให้กับกลุ่มที่ได้มีการวางแผนไว้
พล.อ. ประยุทธ์ยังตอบคำถามของสื่อมวลชน ที่เปลี่ยนมาแสกผมว่า ไม่ได้ถือหรือแก้เคล็ดอะไร และไม่เกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจอาทิตย์หน้า แต่เปลี่ยนเพราะผมบาง ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังไม่ชินกับตัวเอง
ส่วนการโหวตสวนมติพรรคในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ได้ตรวจสอบกับหัวหน้าพรรคไปแล้ว ยืนยันว่าไม่มีเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเรื่องของพรรคการเมืองก็ว่ากันไป ส่วนความสามัคคีของพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาลย้ำว่ายังคงหนาแน่น เหนียวแน่นในการทำงาน เพื่อประชาชนและเพื่อชาติ เพื่อให้ดำรงไว้ซึ่งสถาบันทั้งหมดคือหลักการของรัฐบาล นายกฯ และพรรคร่วมรัฐบาล ที่ร่วมกันทำงานในเวลานี้
พล.อ. ประยุทธ์ยังกล่าวถึงการรวมตัวกันของชุมนุมหลายครั้งของชาวเมียนมาในไทย เพื่อต่อต้านการรัฐประหาร รวมถึงมีคนไทยบางกลุ่มพยายามเข้าไปยุ่งเกี่ยวการชุมนุมของชาวเมียนมาว่า ไม่อยากให้รวมตัวกัน ชุมนุมกันในเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง จึงฝากไปยังบางกลุ่มที่พยายามจะไปยุ่งเกี่ยวหรือยุยงปลุกปั่น ก็เป็นเรื่องของอาเซียน และไม่ขอแสดงความคิดเห็นมากกว่านี้
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล