พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ อภิปรายเรื่องคุณสมบัติของรัฐมนตรี และถาม พล.อ. ประวิตร ว่า นาฬิกาที่ยืมเพื่อนคืนไปหมดแล้วหรือยัง เพราะกล้องถ่ายเยอะ เดี๋ยวติดภาพไปแล้วจะมีปัญหาอีก พร้อมระบุว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาตนลงพื้นที่ไปพบปะประชนมาตลอด และประชาชนมักจะพูดว่าถ้าเป็นนายกรัฐมนตรี 2 สมัยไม่สง่างาม เพราะครั้งแรกปล้นเขามา ครั้งที่ 2 โกงเขามา แต่ตนไม่เชื่อ เพราะตนเป็นนักเรียนเตรียมทหาร เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน และสถาบันนี้ไม่สอนให้คนมาโกง แต่สอนให้ซื่อสัตย์สุจริต และเมื่อท่านเข้ามายึดอำนาจ โดยอ้างว่าบ้านเมืองไม่สงบเรียบร้อย แต่ตนและประชาชนไม่เชื่อ ตนเห็นว่า พล.อ. ประยุทธ์ ต้องการเอาอำนาจมากกว่า และหัวหน้า กปปส. ที่ทุกคนเห็นว่า สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นแกนนำ แต่พอวันนี้ทุกคนใน กปปส. เข้ามาร่วมพรรคนี้เพื่อสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ ชาวบ้านก็คิดว่า พล.อ. ประยุทธ์ เป็นแกนนำ กปปส. มากกว่า และเมื่อเข้ามาก็แต่งตั้งองค์กรอิสระเพื่อช่วยเหลือพวกพ้อง
ซึ่งระหว่างการอภิปราย มี ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ และ ส.ว. ประท้วงว่าเสียดสีบุคคล เช่น พล.อ. ธวัชชัย สมุทรสาคร กล่าวว่า พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ไม่มีวุฒิภาวะพอให้เป็น ผบ.ตร. ด้วยซ้ำ เพราะพาดพิงถึงสถาบัน ถ้าอยากให้ประเทศไทยเจริญควรให้ชายไทยทุกคนเกณฑ์ทหารเหมือนเกาหลี แล้วเราจะไม่มาปฏิวัติใดๆ ทั้งสิ้น ทุกคนเป็นเพื่อนกัน จะไม่มาทะเลาะเบาะแว้งกันแบบนี้ ถ้าแบบนี้มันต้องปฏิวัติ 20 ปี เมื่อพูดจบก็มีเสียงโห่ในรัฐสภาดังขึ้น
ขณะที่มี ส.ส. และ ส.ว. อีกหลายคนขอให้ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ถอนคำพูดว่าโกงการเลือกตั้ง เช่น เสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ขอให้ถอนคำพูด ซึ่ง พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ กล่าวตอบโต้ว่า ถ้าเป็นกลางก็คิดดูว่าตัวเองมาจากไหน อย่าติดนิสัยจาก สนช.
ด้าน พล.อ. ประยุทธ์ ทนไม่ไหว ลุกขึ้นพูดโดยที่ไม่ขออนุญาตประธาน โดยกล่าวด้วยอารมณ์โมโหว่า “ท่านเป็นรุ่นพี่ผม แต่งงานวันเดียวกับผม แต่วันนี้ท่านไม่เป็นรุ่นพี่ผม” พร้อมระบุพูดจาหยาบคาย อวดอ้างอำนาจ เมื่อพูดเสร็จก็เดินออกจากห้องประชุม โดยที่มีสมาชิก ส.ส. และ ส.ว. โห่เสียงดังขึ้นมาทั้งสภา และประธานประกาศพักการประชุม 10 นาทีทันที
เมื่อกลับมาประชุมอีกครั้ง พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ อภิปรายต่อ ก่อนจะถูกประธานสภาไล่ออกจากห้องประชุมระหว่างการอภิปราย เนื่องจากอ้างอิงคำบอกเล่าของผู้อื่นมากล่าวในสภา โดยประธานสภาขอให้ถอนคำพูด แต่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ปฏิเสธ จึงถูกเชิญออกจากห้องประชุม ซึ่ง พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ทิ้งท้ายว่า “แล้วไงต่อ” ก่อนจะเดินออกจากห้องประชุม