วันนี้ (7 มิ.ย. 61) ที่รัฐสภา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำคณะรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงหลักการและเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 ซึ่งคณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอวงเงิน 3 ล้านล้านบาท ต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
ช่วงหนึ่ง พลเอก ประยุทธ์ กล่าวถึงการวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลใช้งบประมาณสิ้นเปลืองเพราะมีการของบประมาณรายจ่ายเพิ่มขึ้นทุกปีว่า การเพิ่มขึ้นของงบประมาณดังกล่าวก็เพื่อพัฒนาการทำงาน ดูแลผู้มีรายได้น้อย เพิ่มรายได้ประเทศและเป็นการลงทุนสู่อนาคตตามกลุ่มงานที่รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณ ที่มีทั้งแผนงานระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว แต่การจัดสรรงบประมาณนั้นจะจ่ายเงินเป็นรายงวดเป็นภาระผูกพัน และต้องควบคุมหนี้สาธารณะให้อยู่ในกรอบที่เหมาะสมสามารถบริหารจัดการได้
สำหรับงบประมาณที่เพิ่มขึ้นนั้นยืนยันว่า ได้มีการตรวจสอบและมีการชี้แจงจากหน่วยงานที่ขอ ดังนั้นจึงไม่อยากให้มีคนนำงบประมาณของรัฐบาลไปบิดเบือนว่ามีการทุจริต ซึ่งยอมรับว่าไม่สามารถปราบการทุจริตได้ 100% แต่การทุจริตอยู่ที่คนจึงต้องพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีหลักคิดที่ถูกต้อง มีเหตุผล ใช้สติปัญญาไม่ใช้ความรู้สึก ซึ่งหากจะแก้ไขกฎหมายโดยเพิ่มโทษให้รุนแรงมากขึ้นก็จะเป็นเช่นนี้เรื่อยไปจนในที่สุดก็ไม่สามารถนำงบประมาณไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ และถือเป็นสิ่งที่อันตรายในการบังคับใช้กฎหมาย
“ถ้าคนจะด่าตัวเองก็ด่าได้ แต่หมิ่นตำแหน่งนายกฯ ไม่ได้ เพราะเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ ซึ่งตัวเองอยากรักษาตำแหน่งนี้ให้มีเกียรติไม่ใช่ไม่มีเกียรติ และอยากให้ช่วยกันให้กำลังใจกัน หากไม่ช่วยกันรักษาคนดีคนไม่ดีก็จะกลับมา” พลเอก ประยุทธ์ กล่าว
สำหรับร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2562 ได้กำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายจำนวน 3 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 17.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
โดยประมาณการรายได้สุทธิจำนวน 2.5 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 14.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ และกำหนดวงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 4.5 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ซึ่งการขาดดุลงบประมาณจำนวนดังกล่าวยังอยู่ในระดับที่ไม่ส่งผลกระทบต่อวินัยและฐานะการคลังของประเทศในระยะยาว
ขณะที่กระทรวงที่ได้งบประมาณสูงสุด 3 อันดับแรก คือ 1. กระทรวงศึกษาธิการ 4.89 แสนล้านบาท 2. กระทรวงมหาดไทย 3.73 แสนล้านบาท และ 3. กระทรวงการคลัง 2.42 แสนล้านบาท
Photo: Thaigov.go.th