วันนี้ (4 พฤศจิกายน) อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เวลา 10.15 น. ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 5 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวเปิดงาน ‘มหกรรมร่วมใจแก้หนี้: มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน’ ครั้งที่ 1 ผ่านบันทึกวีดิทัศน์ โดยกระทรวงการคลังร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยจัดขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล
พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า สถานการณ์โควิดได้ส่งผลกระทบทำให้ปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทยเสื่อมถอยลง เนื่องจากประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจขาดรายได้ ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ต่ำลง ถึงแม้ว่าในปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดได้คลี่คลายลงแล้ว และสถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น แต่ปัญหาภาระหนี้ของประชาชนยังคงอยู่ ซึ่งรัฐบาลได้เห็นถึงความสำคัญของปัญหาหนี้ครัวเรือนนี้ และต้องการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง
จึงได้กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ครัวเรือน เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขหนี้ครัวเรือน และบูรณาการความร่วมมือระหว่างหลายหน่วยงาน เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาหนี้ให้กับประชาชนและผู้ประกอบการได้อย่างเบ็ดเสร็จ
พล.อ. ประยุทธ์ ย้ำถึงการจัดงาน ‘มหกรรมร่วมใจแก้หนี้: มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน’ ในครั้งนี้ว่า เป็นส่วนหนึ่งของการแก้หนี้ครัวเรือนตามนโยบายรัฐบาลในปี 2565 เพื่อช่วยเหลือและส่งเสริมการแก้ไขปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน และเปิดโอกาสให้ประชาชนและผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือของภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรม โดยในงานมหกรรมจะมีกิจกรรมประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่
- การแก้ไขปัญหาหนี้สินที่มีอยู่เดิม
- การสร้างรายได้ผ่านการสร้างอาชีพหรืออาชีพเสริม
- การสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชนด้วยการส่งเสริมทักษะในการประกอบอาชีพ โดยการจัดงานในครั้งนี้เป็นการจัดงานครั้งที่ 1 และจะมีกำหนดจัดงานครั้งต่อๆ ไปอีก 4 ครั้ง ครอบคลุมทั้ง 4 ภาคทั่วประเทศ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2565 – มกราคม 2566
พล.อ. ประยุทธ์ ได้ขอบคุณกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และธนาคารออมสิน ในฐานะเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมในครั้งนี้ รวมทั้งขอบคุณสถาบันการเงินของรัฐอื่นๆ ตลอดจนหน่วยงานพันธมิตรที่เข้าร่วมจัดกิจกรรมและร่วมกันประชาสัมพันธ์ในการจัดงานครั้งนี้
“นายกรัฐมนตรีเชิญชวนทุกคนให้มาร่วมงาน เพื่อเข้ารับคำปรึกษาในการจัดการแก้ไขปัญหาหนี้จากหน่วยงานต่างๆ โดยหวังว่างาน ‘มหกรรมร่วมใจแก้หนี้: มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน’ จะช่วยให้ประชาชนสามารถแก้ไขปัญหาภาระหนี้สินที่มีอยู่ได้อย่างตรงจุด สอดคล้องกับศักยภาพในการชำระหนี้ รวมทั้งได้รับการส่งเสริมความรู้และการสร้างวินัยทางด้านการเงิน เพื่อที่จะหลุดพ้นจากกับดักหนี้สินได้อย่างยั่งยืน” อนุชากล่าว
สำหรับการจัดมหกรรมร่วมใจแก้หนี้สัญจร ครั้งที่ 1 กรุงเทพฯ ธนาคารออมสินได้รับมอบหน้าที่เป็นผู้จัดงานหลัก กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2565 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 5 โดยธนาคารพร้อมด้วยสถาบันการเงินของรัฐทุกแห่ง รวมถึงหน่วยงานต่างๆ หลายภาคส่วน ได้พร้อมใจกันนำเสนอมาตรการแก้ไขหนี้ เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง ครอบคลุมลูกหนี้สินเชื่อประเภทต่างๆ เช่น สินเชื่อบุคคล สินเชื่อบ้าน สินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อภาคการเกษตร นาโนไฟแนนซ์ รวมถึงลูกหนี้บัตรเครดิต ฯลฯ ตลอดจนบริการให้คำปรึกษาแก้ปัญหาหนี้อย่างยั่งยืน
โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ที่ https://ln15.gsb.or.th/WEB-DEBT/ เพื่อแจ้งความประสงค์มาติดต่อขอแก้ไขหนี้ พร้อมรับสิทธิพิเศษอื่นๆ ได้ตลอดงานทั้ง 3 วัน