วันนี้ (5 มิ.ย.) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณีพรรคอนาคตใหม่ ออกแถลงการณ์ระบุว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐมาติดตามสมาชิกพรรคหลังการประชุมจัดตั้งพรรคว่า
“ถามว่าเขาทำผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าไม่ผิดก็ไม่มีใครแตะต้องได้ ผมไม่ได้ให้นโยบายว่าต้องไปติดตามเขา แต่ถ้าเขามีปัญหาต้องมีคนไปแจ้งเตือนว่าอย่าทำเพราะผิดกฎหมาย และถ้าไม่เตือนเขาก็ด่าไปเรื่อยแล้วก็หาว่ารัฐบาลไม่เอาจริงเอาจัง ซึ่งรัฐบาลไม่ได้บังคับใช้กฎหมายเต็มที่ แต่ก็จำเป็นหากวันหน้าสถานการณ์รุนแรงกว่านี้”
ส่วนการจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ที่มี นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคฯ นั้น พล.อ. ประยุทธ์ เห็นว่า หากทำถูกต้องตามกฎหมายก็เป็นเรื่องที่สมควรทำ เนื่องจากที่ผ่านมามีหลายพรรคการเมืองเกิดขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรจะเป็นสำหรับพรรคการเมืองของไทย
พร้อมยืนยันด้วยว่าตนเองไม่ได้ต้องการลดสมาชิกพรรคการเมืองและไปสนับสนุนพรรคที่สนับสนุนตนเองเท่านั้น สิ่งสำคัญหากใครจะเข้ามาเป็นตัวแทนของประชาชนจะต้องมีความชัดเจนทั้งเรื่องของสมาชิกพรรค การจ่ายเงิน จึงจะได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ดังนั้น ไม่ว่าจะพรรคใคร หรือพรรคของนายสุเทพ หากมีความตั้งใจจริง ขอให้ประสบความสำเร็จและขอแสดงความยินดีด้วย
ดังนั้น พรรคใครก็ได้ที่จะนำพาประเทศชาติให้เข้มแข็ง เป็นรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลมีการปฏิรูปและปฏิบัติตามยุทธศาสตร์ชาติ ตนเองพร้อมให้การสนับสนุน แต่ไม่ใช่พอเขามาสนับสนุนตนเอง แล้วตนเองต้องไปสนับสนุนเขา
ขณะที่ความคืบหน้าการประกาศใช้ พ.ร.ป. เลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป. การได้มาซึ่ง ส.ว. หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ขณะนี้กำลังดำเนินตามขั้นตอนเพื่อเสนอขึ้นทูลเกล้าฯ
แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเลือกตั้งได้ทันที เพราะกฎหมายเขียนไว้อยู่แล้ว ย้ำว่าเลือกตั้งอย่างไรก็ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562
ส่วนความคืบหน้ากฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น 6 ฉบับ เสร็จเมื่อไรก็เมื่อนั้น เนื่องจากมีหลายมาตราและเกี่ยวข้องหลายอย่าง ขณะนี้อยู่ในการพิจารณาของ สนช.
“มันจะเลือกตั้งได้หรือไม่ได้ ถ้ามันเรียบร้อยทุกอย่างมันก็เลือกตั้งได้หมด แต่ถ้ามันไม่เรียบร้อย มีปัญหา มีความขัดแย้งกันอยู่แบบนี้ หรือด่ากันไปว่ากันมาอยู่แบบนี้ ซึ่งนับวันมันก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วมันจะเลือกตั้งกันไหวไหม
“เป็นเรื่องของท่าน เป็นเรื่องของสื่อฯ เป็นเรื่องของโซเชียล ไม่ใช่เรื่องของผม เลือกตั้งได้หรือไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องของผม ผมจะดูแลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ใครที่ทำให้เกิดความไม่มั่นคงปลอดภัยนำไปสู่การเลือกตั้งไม่ได้ก็ต้องถูกดำเนินการลงโทษโดยเด็ดขาด”