พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เรือล่มกลางทะเลภูเก็ตอย่างสุดซึ้ง โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลอย่างดีที่สุด ทั้งการอำนวยความสะดวกแก่ญาติและจัดการเรื่องศพให้เรียบร้อย พร้อมทั้งได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือแสดงความเสียใจไปยังประเทศบ้านเกิดของผู้เสียชีวิตด้วยแล้ว
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับให้ดูแลผู้บาดเจ็บทุกราย และระดมสรรพกำลังความร่วมมือทั้งด้านบุคลากรและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อค้นหาผู้สูญหายอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยย้ำว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และจังหวัดภูเก็ตซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศ จึงขอให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบสาเหตุของอุบัติเหตุว่าเกิดจากอะไร และใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบบ้าง
สำหรับแนวทางการปฏิบัตินับจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้จังหวัดภูเก็ตจัดตั้งศูนย์อำนวยการประสานงานค้นหาผู้สูญหายและประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร โดยขอให้แบ่งสัดส่วนพื้นที่การทำงานของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่หรือสื่อมวลชนให้ชัดเจน และจัดให้มีการแถลงข่าวเป็นวงรอบโดยให้ ผวจ.ภูเก็ต เป็นผู้รับผิดชอบบริหารจัดการเพื่อให้ข้อมูลข่าวสารมีความเป็นเอกภาพ เช่น ตัวเลขผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ หรือสูญหาย และการช่วยเหลือของภาครัฐ และบริษัทนำเที่ยว เป็นต้น
“นายกฯ ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนทุกแขนง ไม่นำเสนอภาพผู้เสียชีวิต เพื่อให้เป็นไปตามหลักสากลและสิทธิมนุษยชน รวมทั้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและหน่วยกู้ภัยที่เข้าปฏิบัติงาน งดเว้นการถ่ายรูปผู้เสียชีวิตด้วยกล้องโทรศัพท์มือถือแล้วส่งให้คนรู้จัก เพราะท้ายที่สุดภาพดังกล่าวอาจหลุดรอดเผยแพร่ออกไป โดยไม่ทันระวัง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศไทย”
ด้านนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่ม จังหวัดภูเก็ต ว่าได้นำคำขอบคุณและกำลังใจจากพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่ได้ระดมกำลังอย่างเต็มที่ในการค้นหาผู้รอดชีวิต
สำหรับเหตุที่เกิดขึ้น เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นเหตุสุดวิสัยที่ทำให้เกิดภัยธรรมชาติขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนสาเหตุที่แท้จริง พนักงานสอบสวนจะได้ดำเนินการต่อไป
ด้านประธานาธิบดีจีน ได้ออกแถลงการณ์เนื้อหาสำคัญ คือขอให้กระบวนการค้นหาผู้รอดชีวิตดำเนินการต่อไปอย่างเต็มที่ ซึ่งทางการไทยจะยังคงใช้ทุกโอกาสในการออกค้นหาต่อเนื่อง สม่ำเสมอ และจะดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในอนาคต ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ในอนาคตจะนำเสนอรัฐบาลเพื่อพิจารณาแนวทางการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวที่ไม่เน้นปริมาณเพียงอย่างเดียว แต่จะต้องดูแลเชิงคุณภาพด้วย
นอกจากนี้ยังได้ประสานความร่วมมือไปยังค่ายโทรศัพท์ให้ติดตั้งอุปกรณ์สื่อสาร โทรศัพท์มือถือ อำนวยความสะดวก บริการแก่ผู้ประสบภัยและญาติของผู้เสียชีวิตให้สามารถสื่อสารกลับไปประเทศจีนได้ รวมทั้งประสานทางสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ขอสนับสนุนล่ามภาษาจีนเพื่อสื่อสารกับผู้ประสบภัย และครอบครัวของผู้เสียชีวิต ย้ำว่า การค้นหาผู้รอดชีวิตและดูแลผู้ประสบภัย จะกระทำอย่างระมัดระวังและเรียบร้อยที่สุด
ทั้งนี้นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยพลเรือตรี เจริญพลคุ้มราษี รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว ว่าขณะนี้ (6 ก.ค. เวลา 20.45 น.) พบผู้เสียชีวิตรวม 33 ราย ยังคงมีผู้สูญหายอีก 23 ราย โดยทางจังหวัดจะได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการค้นหาอย่างต่อเนื่องต่อไป
ขณะเดียวกันได้มีการเตรียมการเรื่องการกู้เรือ ที่จะเร่งดำเนินการควบคู่ไปกับการค้นหา ซึ่งจะประสานกับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยมีเรือหลวงปันหยีมาลากจูง พร้อมเรือประมง มาร่วมสนับสนุน 2 ลำ ยกพยุงซากเรือ ทั้งนี้มอบหมายให้ทางทัพเรือภาคที่ 3 เป็นเจ้าภาพหลักในการวางแผนการกู้เรือในครั้งนี้
อ้างอิง:
- สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต