เช้าวันนี้ (8 ธ.ค.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดตรังเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม พบหลายอำเภอเริ่มคลี่คลาย สั่งกำชับขุดคลองผันน้ำลงสู่ทะเลต้องเสร็จปี 2561 แก้ปัญหาระยะยาว สัญญาจะเพิ่มกำลังการใช้ยางพาราให้ราคาเพิ่มขึ้น
โดยสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง, อำเภอกันตัง และอำเภอรัษฎา ซึ่งสถานการณ์น้ำในวันนี้เริ่มคลี่คลายแล้วหลายอำเภอ
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีได้ตรวจสถานการณ์การระบายน้ำในแม่น้ำตรังบริเวณสะพานคลองช้าง สั่งกำชับเร่งรัดแผนการขุดคลองผันน้ำจากแม่น้ำตรังเพื่อให้ไหลลงสู่แม่น้ำปะเหลียนเพื่อระบายลงทะเลอันดามันให้เสร็จภายในปี 2561 จะให้การระบายน้ำทำได้รวดเร็วขึ้น รวมถึงต้องเร่งสร้างพนังกั้นน้ำทดแทนของเดิมที่เสียหายไป เนื่องจากมีอายุใช้งานมาหลายสิบปี โดยนายกรัฐมนตรีขอให้ประชาชนเข้าใจการแก้ปัญหา และอาจจะต้องเวนคืนบางพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว
จากนั้นเดินทางไปยังโรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง เพื่อมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่อำเภอเมือง โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปัญหาน้ำท่วมจังหวัดตรังมีปัญหามากว่า 70 ปี รัฐบาลพยายามหาทางแก้ปัญหา แต่ปีนี้ไม่ใช่เฉพาะจังหวัดตรังจังหวัดเดียวที่ประสบปัญหาน้ำท่วม เพราะมีถึง 65 จังหวัดทั่วประเทศ จึงขอให้ประชาชนเข้าใจและร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหา พร้อมแสดงความเป็นห่วงสุขภาพประชาชน ไม่ต้องการให้เกิดโรคระบาดที่มากับน้ำ จึงขอให้ประชาชนระมัดระวัง
ส่วนปัญหาราคายางพารา สัญญาว่าจะเร่งเพิ่มกำลังการใช้งานยางพารา ซึ่งต้องเพิ่มสัดส่วนเป็นล้านตันเพื่อให้ราคาเพิ่มขึ้น แต่ยอมรับว่าทำได้ยาก เพราะมีการปลูกยางพาราเป็นจำนวนมาก ดังนั้นขอให้ประชาชนช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไร อาจจะช่วยกันปลูกพืชเสริม ลดการปลูกยางพาราลง
พร้อมกำชับให้หน่วยงานต่างๆ ร่วมมือกัน อย่ามุ่งแต่จะเลือกตั้ง เพราะเมื่อถึงเวลาการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเอง ขอให้ประชาชนเลือกคนดีๆ เข้ามาก็พอ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนขี้โมโห บางครั้งเป็นการหยอกล้อ แต่สัญญาว่าจะพยายามเก็บอารมณ์ให้มากขึ้น พร้อมบอกรักคนใต้ ชื่นชมคนใต้ว่าน่ารัก เป็นคนขยันอดทนด้วย