ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยแล้งล่าสุดที่จังหวัดสุรินทร์และบุรีรัมย์ ก่อนที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะลงพื้นที่ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) โดยอ่างเก็บน้ำสำคัญของจังหวัดสุรินทร์คือ อ่างเก็บน้ำห้วยเสนงและอ่างเก็บน้ำอำปึล ซึ่งเป็นแหล่งกักเก็บน้ำดิบผลิตประปา มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ทำให้สถานการณ์คลี่คลาย แต่ยังคงต้องเฝ้าระวัง โดยอ่างเก็บน้ำห้วยเสนงมีปริมาณน้ำ 9.86% ของความจุ และอ่างเก็บน้ำอำปึลมีปริมาณน้ำ 1.09% ของความจุ บางพื้นที่ยังมีปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค รวมพื้นที่ประสบภัย 2 อำเภอ คือ อำเภอเมืองสุรินทร์ และอำเภอสำโรงทาบ 31 ตำบล 308 หมู่บ้าน 150,995 ไร่ ส่วนที่จังหวัดบุรีรัมย์มีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำสำคัญคือ อ่างเก็บน้ำห้วยตลาดและอ่างเก็บน้ำห้วยจระเข้มาก รวม 1.438 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปาในระยะต่อไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ รมช.เกษตรฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปแก้ไขปัญหาเร่งด่วน โดยเฉพาะการขุดร่องชักน้ำเข้าสู่หัวสูบประปา และสูบน้ำบริเวณรอบอ่างเก็บน้ำให้สามารถผลิตน้ำประปาได้ ขุดเจาะบ่อบาดาลเพิ่มปริมาณน้ำ เร่งปฏิบัติการฝนหลวงเติมน้ำในอ่าง ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเป็นลำดับ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะไปตรวจติดตามปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงาน โดยกำชับเรื่องแผนระยะกลางและระยะยาวเพื่อความยั่งยืน เช่น การเพิ่มความจุอ่างเก็บน้ำทุกแห่ง โครงการผันน้ำจากแหล่งที่มีศักยภาพสูงกว่า การตั้งสถานีผลิตน้ำประปาในจุดที่มีแหล่งน้ำเพียงพอ เพื่อเสริมความมั่นคงด้านน้ำประปา เป็นต้น พร้อมทั้งได้สั่งการให้ทุกจังหวัดเตรียมการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะเกษตรกรให้ดีที่สุดด้วย
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล