วันนี้ (21 พ.ค.) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ตอบคำถามสื่อมวลชนหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปฏิเสธข่าวที่สื่อฯ ฮ่องกงเปิดเผยว่า ‘ธนินท์ เจียรวนนท์’ แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
“ไปเอาข่าวมาจากไหน นายกฯ ต่อไปคือเจ้าสัว ซีพี เป็นไปได้อย่างไร ผมไม่รู้เหมือนกัน” พลเอก ประยุทธ์ กล่าว
พลเอก ประยุทธ์ กล่าวถึงวันครบ 5 ปี คสช. ในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ค. 2562) โดยคิดว่าทุกเรื่องต้องทำต่อเนื่อง เรื่องที่ยังไม่พร้อม กฎหมายยังใช้ไม่ได้ต้องทำต่อ เพราะการบริหารประเทศต้องมีความยั่งยืน คือมีนายกฯ มี ครม. ที่มีประสิทธิภาพ
ตนคิดว่านักการเมืองทุกพรรคก็ต้องการเช่นนี้ เพราะประชาชนเลือกตั้งมาแล้ว ต้องรับฟังความคิดเห็น และจะทำอย่างไรให้สิ่งที่เขาต้องการเกิดขึ้นอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ไม่ใช่แก้ปัญหาหนึ่งแล้วปัญหานั้นจะถมทับของเดิม
ในนามหัวหน้า คสช. ถือว่าพอใจที่ได้แก้ปัญหาที่หมักหมมมายาวนานหลายเรื่องด้วยกัน ทั้งเรื่องความสงบเรียบร้อย แก้ปัญหาชาวนา จำนำข้าว คดีทุจริตคอร์รัปชัน คนจนถูกเอาเปรียบ คืนโฉนดให้ชาวบ้าน หนี้นอกระบบ ปรับปรุงกฎหมายที่ล้าสมัย การค้ามนุษย์ วินรถตู้ แม่น้ำคูคลอง และแก้ปัญหาปากท้อง บัตรสวัสดิการ รถไฟฟ้า พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ หลายเรื่องที่ยังมีปัญหาก็เป็นเรื่องของรัฐบาลใหม่ ก็เหมือนที่ตนอยู่มา อะไรที่ดีอยู่แล้วตนก็ทำต่อให้ อะไรที่ดีไม่มากก็แก้ไขปรับปรุง
“ขอร้องอย่าต่อต้านกันเลย มันมีผลกระทบอื่นๆ ทั้งสิ้น” พลเอก ประยุทธ์ กล่าว
พลเอก ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ไปฟังเทศน์วันก่อน พระพูดเรื่อง ‘กาลเทศะ’ พูดง่ายๆ คือทำอะไรก็ตามที่ไม่ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่สบายใจ
ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับรัฐบาลและ ครม. ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน ถามตนตอนนี้มันก็มีปัญหาหมด
ทั้งนี้คิดว่าทุกพรรคก็มีนโยบายของตัวเองอยู่แล้ว ทำอย่างไรให้รัฐบาลใหม่สามารถนำนโยบายของทุกพรรคมาจัดทำให้สอดคล้องกับนโยบายใหญ่ และคำนึงถึง พ.ร.บ. การเงินการคลัง และ พ.ร.บ. งบประมาณ ซึ่งกำหนดไว้ชัดเจน
นักข่าวถามด้วยว่าถ้าได้เป็นนายกฯ อีกครั้ง จะมีการจัดสรรเก้าอี้ ครม. อย่างไร
พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่คิด วันนี้ทุกพรรคเขาหารือกันเอง อย่าเอาตนเข้าไปเกี่ยวข้องเลย ตนยังไม่ก้าวล่วงตรงนี้ ทุกอย่างอยู่ที่การพูดคุยกันให้เข้าใจว่าบ้านเมืองต้องการอะไรในขณะนี้
“เราทำล่าช้าเกินไปมันก็มีผลกระทบกับเศรษฐกิจ การลงทุนหยุดชะงัก สงครามการค้าก็เกิดอยู่ในขณะนี้ เราต้องสร้างความไว้ใจให้ต่างชาติเพราะมีผลการลงทุน ดูแลคนภายใน ลดความขัดแย้ง ถ้าทุกคนยังคิดเป็นซ้ายเป็นขวาไม่หาทางตรงกลางมาร่วมกันเลยมันจะไปไม่ได้
นักข่าวถามต่อว่า ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ พรรคได้ขอคำปรึกษาการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่
พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็คุยกันมาสิ ถ้าเขาคุยกันได้เรื่องแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีท่านใหม่ ว่าที่เขาคุยกันมาให้นายกรัฐมนตรีตัดสินใจ ซึ่งผมก็ยังตัดสินใจไม่ได้เพราะผมยังไม่ได้เป็น และบางพรรคก็ยังคุยกันไม่ได้ข้อยุติ”
ทั้งนี้เห็นว่า แม้มีพรรคร่วมรัฐบาลกว่า 20 พรรคก็ไม่เป็นปัญหา มองให้ดีคือทุกนโยบายที่ไปหาเสียงกันมาจะได้ลงสู่การปฏิบัติ เพราะทุกอย่างอยู่ที่ความร่วมมือกัน ถ้าไม่ร่วมมือต่อให้มีไม่กี่พรรคก็ไปไม่ได้ ถ้าจะเอาแต่ของตัวเองมันก็ไปไม่ได้
สิ่งที่เขาหาเสียงกันมา ยอมรับว่าเป็นสิ่งดีๆ ทั้งนั้น แต่จะทำได้มากน้อยแค่ไหน เพราะรัฐบาลใหม่ไม่ได้ทำงานง่าย มีกฎหมายใหม่ออกมาหลายตัว
พลเอก ประยุทธ์ ยังปฏิเสธกระแสข่าวว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว. กลาโหม มีส่วนในการจัดตั้งรัฐบาล ยืนยันพรรคร่วมรัฐบาลต้องคุยกันมา ไม่ใช่ว่าจะไปกำหนดกันได้ทั้งหมด
“ตำแหน่งเหล่านี้ไม่ใช่ขายของนะ ทุกคนมองเหมือนขายของ พอพูดไปมากๆ ต่อรองกันเยอะแยะไปหมด และใครจะเชื่อมั่นในรัฐบาล”
นักข่าวถามปิดท้ายว่า เดือนมิถุนายนจะได้รัฐบาลใหม่แน่นอนหรือไม่
“ก็อยู่ที่พวกเรา” พลเอก ประยุทธ์ ตอบ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
