วันนี้ (17 เมษายน) เวลา 18.00 น. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยว่า
พี่น้องประชาชน วันนี้ผมต้องการรายงานให้ทุกท่านทราบถึงงานที่ผมกำลังจะทำ และบทบาทสำคัญของพวกเราคนไทยทุกคนในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า ก่อนอื่นผมขอถือโอกาสวันปีใหม่ไทยที่เพิ่งผ่านไปกล่าวสวัสดีวันปีใหม่ไทยกับคนไทยทั้งประเทศ ผมขอให้ทุกท่านมีสุขภาพกายสุขภาพใจที่สมบูรณ์แข็งแรง และผมหวังว่าทุกท่านจะมีความสุขในวันสำคัญอีกวันของคนไทย นั่นคือวันครอบครัว
ถึงแม้ว่าปีนี้จะแตกต่างไปจากทุกปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังเป็นวันสงกรานต์และวันครอบครัวที่มีความหมาย เพราะเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราได้เห็นว่าสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตของเราคือครอบครัว ไม่ว่าเราจะต้องเจอกับปัญหาใดๆ ก็ตาม คนที่อยู่เคียงข้างเราก็คือพ่อแม่พี่น้องและลูกหลานของเรา
ปีนี้ครอบครัวของพวกเราใหญ่ขึ้นกว่าเดิม มากกว่าเพียงแค่ญาติพี่น้องทางสายเลือด แต่ครอบครัวของเราคือคนไทยทั้งประเทศที่อยู่รอบข้างเรา 70 ล้านคนในช่วงวิกฤตนี้ มีแค่พวกเรากันเองในครอบครัวไทยเท่านั้นที่จะพึ่งพากันได้ ที่จะช่วยกันบรรเทาความทุกข์ร้อนและความยากลำบากที่ทุกคนต้องเผชิญ อย่างเช่นคนแปลกหน้าที่ซื้ออาหารมาแบ่งปันให้เราได้อิ่มท้อง แบ่งเบาภาระให้เราอยู่รอดต่อไปได้ นี่คือความหมายของการเป็นครอบครัวเดียวกัน
ปัจจุบันประเทศไทยของเรากำลังอยู่ในภาวะการณ์ที่ตึงเครียดที่สุด กำลังทำลายชีวิตและการดำรงชีวิตของคนไทยจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถ้ามองไปทั่วโลกเราก็เห็นได้ว่าวิกฤตโควิด-19 ได้ก่อให้เกิดความเสียหายมากมายโดยไม่สนใจว่าเป็นประเทศร่ำรวย ประเทศยากจน หรือประเทศมหาอำนาจ ปัจจุบันหลายประเทศทั้งในภูมิภาคตะวันตก ยุโรป และอื่นๆ รวมถึงประเทศที่มีการพัฒนาสูงสุดก็มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมากและมีจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นหลักหมื่น โดยผู้เชี่ยวชาญยังคาดการณ์ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจพุ่งสูงไปถึงหลักแสนต่อไปในอนาคต ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้ไม่เพียงเกิดกับชีวิตของผู้คนเท่านั้น แต่ยังเสียหายไปถึงการทำงาน การค้าขาย และการทำมาหากินที่เกือบจะหยุดชะงักทั้งหมด นี่จึงเป็นภาวะวิกฤตครั้งใหญ่ที่ทุกรัฐบาลจำเป็นต้องดึงศักยภาพที่ดีที่สุดออกมาให้ได้
ตอนนี้งานที่ผมมุ่งเน้นเป็นสำคัญแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มงานหลัก กลุ่มงานแรกคืองานที่เกี่ยวกับสุขภาพ หมายถึงสิ่งที่เราต้องทำเพื่อลดการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 และเพื่อเพิ่มความสามารถในการรักษาผู้ติดเชื้อ กลุ่มงานที่ 2 คืองานเกี่ยวกับการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้มีเงินเพียงพอต่อการดำรงชีวิตผ่านมาตรการและความช่วยเหลือต่างๆ ซึ่งผมได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักในการคิดและปฏิบัติมาตรการต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ
หน้าที่ของผมคือการบัญชาการและควบคุมการทำงานทั้งหมดของรัฐบาลแทนพี่น้องประชาชน ผมต้องเป็นผู้นำให้ทุกกระทรวง ทุกหน่วยงาน ทำหน้าที่อย่างถูกต้อง เหมาะสม และมีประสิทธิภาพ
ผมทราบดีถึงความกังวลของพี่น้องประชาชนเกี่ยวกับมาตรการเยียวยา 5,000 บาท และมาตรการอื่นๆ ของกระทรวงการคลัง ผมไม่ได้นิ่งนอนใจ วันนี้ผมได้สั่งการเรียกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้เกี่ยวข้องให้เข้ามาพบผมเพื่ออธิบายที่มาที่ไปและเหตุการณ์ทั้งหมดให้ผมทราบว่าปัญหาเกิดจากอะไร และจะแก้ไขอย่างไร นอกจากเงิน 5,000 บาทแล้ว ช่วยไปติดตามงานของหลายกระทรวง มีมาตรการช่วยเหลือออกมาเกือบทุกกระทรวง ทุกกระทรวงช่วยเหลือเต็มที่ โดยภาครัฐจะเข้าไปดูแลกลุ่มเป้าหมาย
นอกเหนือจากสองงานหลักที่ผมเพิ่งกล่าวไปแล้ว ผมขอพูดถึงอีกหนึ่งหน้าที่ที่ผมถือว่าสำคัญที่สุดและเป็นหน้าที่ที่คนไทยทุกคนจะต้องมีบทบาทร่วมกันกับผม หน้าที่สำคัญนี้จะสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นได้มากกว่าที่ผ่านมาหลายเท่า เป็นหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับวิธีการทำงานของเรา ถ้าเราต้องการจะเอาชนะสงครามโควิด-19 ให้ได้ ซึ่งหน้าที่นี้ต้องเริ่มจากการยอมรับความจริง เราต้องยอมรับจุดแข็ง จุดอ่อน และข้อจำกัดของตัวเอง ความคิดที่แตกต่าง
เราต้องยอมรับว่าปัญหาความเสียหายที่เกิดจากโควิด-19 จะแก้ไขได้ด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกับภาคส่วนต่างๆ และเราต้องยอมรับว่ารัฐบาลเพียงฝ่ายเดียวคงไม่สามารถหาคำตอบให้กับทุกปัญหาได้ คนกลุ่มอื่นและภาคส่วนอื่นๆ ก็อาจจะมีคำตอบที่ดีและมีความคิดที่ดีได้ด้วยเช่นเดียวกัน
วิกฤตโควิด-19 ครั้งนี้ใหญ่และซับซ้อนมาก หน้าที่ของเราจึงต้องต่อสู้ไปด้วยกันแบบเป็นหนึ่งเดียวทั้งประเทศ เราทุกคนจะต้องเป็นทีมประเทศไทยด้วยกัน เราจะต้องหาความร่วมมือ ดึงทุกภาคส่วนของสังคม รวมถึงกลุ่มธุรกิจ ทุกกลุ่ม ทุกคนที่มีความรู้ความสามารถและพร้อมที่จะช่วยเหลือประเทศ เราต้องการคนเก่งที่มีอยู่มากมายในประเทศของเราให้มาร่วมมือกัน นี่คือทีมประเทศไทย ไม่ว่าจะมาจากภาครัฐ จากมหาวิทยาลัย ศูนย์วิจัยต่างๆ มาจากภาคเอกชน กลุ่มมหาเศรษฐี หรือพี่น้องประชาชนที่ยอมเสียสละตัวเองเข้ามาร่วมกันต่อสู้เหมือนกับที่ทำอยู่ทุกวันนี้ ร่วมกับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข และอาสาสมัครมากมาย ที่ได้เสียสละตัวเองอย่างกล้าหาญ เผชิญความเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่ทุกวันเพื่อช่วยรักษาชีวิตของผู้อื่น
ผมทราบว่าหลายภาคส่วนในทีมประเทศไทยได้เริ่มลงมือทำอะไรที่สำคัญและมีประโยชน์ไปแล้วหลายอย่าง แต่วันนี้ผมต้องการเพิ่มความร่วมมือกับท่านทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น โดยเริ่มที่ภาคเอกชนก่อน
สิ่งที่ผมจะทำในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า ประการแรกคือผมจะออกจดหมายเปิดผนึกถึงมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย 20 ท่าน ขอให้ท่านเหล่านั้นได้บอกผมว่าในฐานะที่ท่านเป็นผู้อาวุโสของสังคม ท่านจะร่วมมือกันกับเราอย่างไร และท่านจะลงมือช่วยเหลือประเทศไทยของเราให้มากขึ้นได้อย่างไรบ้าง มหาเศรษฐีของประเทศไทยทั้งหลายล้วนมีอิทธิพลอย่างมากต่อเศรษฐกิจของประเทศ และถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ผมขอให้ท่านได้มีบทบาทสำคัญในการร่วมกันช่วยเหลือประเทศ และร่วมเป็นทีมประเทศไทยด้วยกันกับเรา
ผมเข้าใจและซาบซึ้งที่หลายท่านได้ลงมือทำไปแล้วหลายเรื่อง แต่ผมต้องการให้ทุกท่านทำเพิ่มเติมมากกว่าที่ท่านได้ทำไป ผมรู้ว่าทุกท่านต่างก็เต็มใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ประเทศต้องการความช่วยเหลืออย่างมากที่สุด เพราะผมรู้ว่าความเดือดร้อนของคนไทยก็คือความเจ็บปวดของท่านด้วย
ผมขอให้ทุกท่านได้แบ่งปันความสามารถและความฉลาดหลักแหลม รวมทั้งมุมมองอันมีวิสัยทัศน์ของพวกท่าน พร้อมกับใช้องค์กรที่มีศักยภาพสูงของท่านมาช่วยกันจัดการกับวิกฤตที่เรากำลังเผชิญอยู่ในวันนี้ นอกเหนือจากกลุ่มมหาเศรษฐีของประเทศไทย ผมยังอยากจะรับฟังและใช้ความรู้ความสามารถของภาคเอกชนทั้งหมดอีกด้วย
ดังนั้นสิ่งที่ผมจะทำในช่วงสัปดาห์ข้างหน้าประการที่สองคือ ผมจะไปพบกับสมาคมภาคธุรกิจ ไม่ว่าจะขนาดกลางหรือขนาดเล็ก เพื่อรับฟังพวกท่านด้วยตัวของผมเองโดยตรง ไม่ต้องผ่านหน่วยงานใด เพื่อให้ผมได้รับทราบถึงสถานการณ์ที่แท้จริง
ผมต้องการเข้าถึงความรู้ ขีดความสามารถ และความเชี่ยวชาญอันหลากหลายของภาคเอกชน นอกจากนี้ผมต้องการรับฟังความความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ความต้องการ และความท้าทายที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่ ผมต้องการรับฟังว่าพวกท่านต้องการที่จะร่วมมีบทบาทในการแก้ปัญหาครั้งนี้อย่างไร รวมทั้งสิ่งที่ท่านได้ทำไปแล้ว และสิ่งที่ท่านจะช่วยกันทำต่อไป
และที่สำคัญ ผมต้องการได้ยินความคิดเห็นของพวกท่านว่ามีจุดใดบ้างที่รัฐบาลควรจะทำงานให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม แน่นอนว่าเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของรัฐบาลที่ต้องช่วยเหลือคนไทยทั้งประเทศ แต่เราสามารถขยายแรงกำลังในการช่วยเหลือให้ใหญ่ขึ้นได้ด้วยการร่วมมือกับภาคเอกชน มีทรัพยากรมาก มีวิธีการทำงาน และวิธีการเข้าถึงผู้เดือดร้อนได้อย่างรวดเร็วและคล่องตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากรัฐบาลจะเข้าไปช่วยอำนวยความสะดวกให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ในสถานการณ์เช่นนี้ย่อมมีความคิดเห็นที่หลากหลาย แม้กระทั่งในกลุ่มผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้วยกันเองก็ยังมีมุมมองการแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกัน ซึ่งผมเห็นว่าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ผมอยากจะรับฟังทุกท่านเพื่อช่วยกันหาทางออกที่เหมาะสมที่สุด ผมเชื่อว่าความคิดเห็นของท่านทั้งหลาย แม้จะมีความแตกต่างกัน แต่ล้วนเกิดจากความรักชาติและความปรารถนาดีต่อประเทศทั้งสิ้น และเมื่อเราเลือกที่จะปฏิบัติทางใดทางหนึ่งแล้ว ขอให้ทุกคนร่วมมือกันสนับสนุนเพื่อช่วยกันผลักดันให้เกิดความสำเร็จตามที่เราต้องการ
ผมขอให้พวกเราทุกคนทำงานร่วมกัน เป็นครอบครัวเดียวกัน ขอให้พวกเราใช้วิกฤตครั้งนี้เป็นโอกาสที่จะช่วยสร้างประเทศไทยของเราให้แข็งแกร่งขึ้นมาอีกครั้ง มีความเป็นปึกแผ่นและมีความเป็นหนึ่งเดียวกันของพี่น้องคนไทยในช่วงเวลาที่ประเทศของเรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก ขอให้พวกเราทุกคนได้ร่วมกันแสดงพลังของความเป็นไทยออกมาอีกครั้ง ให้โลกได้เห็นว่าพวกเราคนไทยได้ร่วมมือช่วยเหลือกันและต่อสู้ไปด้วยกันโดยไม่มีสีเสื้อและไม่มีฝักมีฝ่ายทางการเมือง ในอนาคตเมื่อมองย้อนกลับมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้จะเห็นว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยากและความเสียหายมากมาย แต่ในอีกด้านหนึ่งเราจะเห็นว่านี่คือช่วงเวลาที่เราได้อะไรที่ยิ่งใหญ่กลับคืนมาด้วย นั่นคือเราได้ค้นพบตัวตนที่แท้จริงของคนไทยอีกครั้ง และเราได้ค้นพบความกลมเกลียวเป็นครอบครัวเดียวกันของพวกเราคนไทยทั้งประเทศ
ผมมีความหวังแบบนั้นครับ และผมเชื่อว่าคนไทยทุกคนก็มีความหวังแบบนั้นเช่นกัน ผมขอให้ทุกคนมาร่วมมือกันทำให้ความหวังของพวกเราเป็นความจริง เราจะต้องชนะไปด้วยกัน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์