วันนี้ (25 พฤศจิกายน) เวลา 10.30 น. ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกะทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 8/2565 ร่วมกับ สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาแนวทางเพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าในช่วงวิกฤตราคาพลังงาน
พล.อ. ประยุทธ์กล่าวมอบนโยบายต่อที่ประชุมตอนหนึ่งว่า ทุกคนทราบดีว่าทุกวันนี้มีปัญหาเรื่องพลังงานในทุกมิติ และจากการติดตามสถานการณ์โลกทั้งภายนอกและภายใน สถานการณ์พลังงานจะอยู่กับเราไปอีกนานพอสมควร ทำให้ต้องเตรียมมาตรการที่เหมาะสมในการดูแลพี่น้องประชาชนไทย ในหลายๆ กิจกรรม ต้องพยายามให้มีการปรับเปลี่ยนในช่วงสถานการณ์วิกฤตขณะนี้
“ขอขอบคุณคณะกรรมการทุกคนที่ช่วยกันแก้ไขปัญหามาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง หลายอย่างยังติดขัดในเรื่องเดิมๆ อยู่ ก็ต้องขอให้ช่วยกัน เพราะปัญหาทุกอย่างเกี่ยวพันกัน ประชาชนเกิดความเดือดร้อนเรื่องไฟฟ้า ดังนั้น จึงขอร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านพลังงานตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางให้ความร่วมมือกันด้วย”
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสหพันธรัฐรัสเซียและประเทศยูเครนที่ยังไม่มีข้อยุติ ส่งผลให้ราคาพลังงานโลกมีความผันผวนและมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างรุนแรง ราคา LNG (Japan/Korea Marker: JKM) ปรับเพิ่มขึ้นจากต้นปี 2564 ที่ 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู เป็น 30 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู ในเดือนตุลาคม 2565 การประมาณการณ์แนวโน้มราคา LNG ในปี 2566 – 2567 อยู่ที่ 25 – 33 ดอลลาร์สหรัฐต่อล้านบีทียู ซึ่งกำลังการผลิตก๊าซฯ จากแหล่งอ่าวไทยลดลงจึงจำเป็นต้องนำเข้า Spot LNG ที่มีราคาสูงเข้ามาทดแทนเป็นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อต้นทุนเชื้อเพลิงสำหรับผลิตไฟฟ้าของประเทศสูงขึ้นตามไปด้วย
ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนในช่วงวิกฤติพลังงานดังกล่าว ในวันนี้ที่ประชุม กพช. จึงได้มีการพิจารณาแนวทางเพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าในช่วงวิกฤตราคาพลังงาน โดยมุ่งเน้นในส่วนของการบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวนโยบายการบริหารจัดการก๊าซฯ เพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าในช่วงวิกฤตราคาพลังงาน (ตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน 2566) ดังนี้
- การบริหารก๊าซธรรมชาติเพื่อการผลิตไฟฟ้า โดยจัดสรรก๊าซฯ จากอ่าวไทยหลังโรงแยกก๊าซฯ เพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยก่อน ในปริมาณที่ไม่เพิ่มภาระอัตราค่าไฟฟ้าจากปัจจุบัน โดยมอบหมายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ไปคำนวณอัตราค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ ( Ft) สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย และมอบหมายให้ กกพ. เร่งศึกษาการจัดทำอัตราค่าไฟฟ้ากลุ่มประเภทบ้านอยู่อาศัยที่มีการใช้ไฟฟ้ามากกว่า 500 หน่วยต่อเดือนขึ้นไป เพื่อส่งเสริมการประหยัดพลังงาน
- กพช. ได้ขอความร่วมมือจาก ปตท. ให้พิจารณาจัดสรรรายได้จากการดำเนินธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ ประมาณ 1,500 ล้านบาทต่อเดือน ระยะเวลา 4 เดือน (ตั้งแต่เดือนมกราคม – เมษายน 2566) มาช่วยสนับสนุนในรูปแบบที่เหมาะสมเพื่อลดต้นทุนค่าไฟฟ้า โดยแบ่งการจัดสรร ดังนี้
-
- ส่วนที่ 1 เป็นส่วนลดราคาค่าก๊าซฯ ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือลดค่าไฟฟ้าแก่กลุ่มเปราะบางที่ใช้ไฟฟ้าต่ำกว่า 500 หน่วยต่อเดือน โดยมอบหมายให้ กกพ. กำกับดูแลการดำเนินการต่อไป
- ส่วนที่ 2 เป็นส่วนลดราคาก๊าซฯ สำหรับโรงแยกก๊าซฯ ในการคำนวณต้นทุนก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อเป็นเชื้อเพลิง
- กพช. มีมติเห็นชอบให้ ปตท. ร่วมกับ กฟผ. บริหารจัดการผลกระทบของราคาก๊าซธรรมชาติต่อค่าไฟฟ้า โดยให้ ปตท. คิดราคาก๊าซฯ สำหรับโรงไฟฟ้าของ กฟผ. IPP และ SPP ในระดับราคาเดียวกับที่ใช้การประมาณการค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่า Ft ตั้งแต่เดือนที่ กพช. มีมติเป็นต้นไป
นอกจากนี้ที่ประชุม กพช. มีมติเห็นชอบการดำเนินการตามมาตรการการตอบสนองด้านโหลด (Demand Response) ในกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทอื่น โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมเพื่อลดการใช้ก๊าซฯ โดยกำหนดให้ผลตอบแทนจากการดำเนินมาตรการ Demand Response เป็นส่วนหนึ่งของค่า Ft และมอบหมายให้ กกพ. เร่งดำเนินการตามอำนาจหน้าที่เพื่อให้สามารถลดต้นทุนค่าไฟฟ้าในภาพรวมต่อไป อีกทั้งที่ประชุม กพช. ได้มติมอบหมายให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาดำเนินการและกำกับดูแลแนวทางการบริหารจัดการก๊าซฯ เพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าในช่วงวิกฤตราคาพลังงานต่อไป
พล.อ. ประยุทธ์กล่าวย้ำว่า รัฐบาลมุ่งหวังดูแลกลุ่มเปราะบางและประชาชนให้เดือดร้อนน้อยที่สุด โดยคำนึงถึงภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย พร้อมขอบคุณคณะกรรมการฯ ภาครัฐ และภาคเอกชน ที่ช่วยกันทำให้ประเทศอยู่รอดในสถานการณ์วิกฤตด้านพลังงาน