วันนี้ (5 มกราคม) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ยืนยันรัฐบาลได้เร่งขจัดขบวนการผิดกฎหมาย บ่อนการพนัน โดยสั่งให้เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดมากที่สุด และปฏิเสธไม่ได้ว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังเล่นการพนันอยู่ จึงไม่อยากโทษประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ แต่ทุกคนต้องร่วมมือกัน ได้มอบหมายให้ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจสอบสวนอยู่ และจะตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนทั้งสองเรื่องนี้ ยืนยันจะจับกุมให้หมดไม่ว่าใครจะเป็นนายทุน ส่วนคนที่หนีออกไปเล่นการพนันประเทศเพื่อนบ้านก็ต้องติดตามจับกุมมา พร้อมทั้งสั่งตั้งด่านให้รัดกุม
พล.อ. ประยุทธ์ ยังชี้แจงถึงคำสั่งที่ประกาศออกไปนั้นได้ปรึกษาหารือกับทุกหน่วยงาน ขณะเดียวกันต้องฟังความเห็นของฝ่ายเศรษฐกิจ เพื่อหามาตรการที่เหมาะสมมาใช้กับปัจจุบัน ไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนกและได้รับผลกระทบ
พล.อ. ประยุทธ์ ยังย้ำถึงการแบ่งพื้นที่ตามโซนทุกพื้นที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการทั้งหมด ส่วนพื้นที่ 28 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดมีโรงเรียน สถาบันการศึกษาที่ต้องเปลี่ยนมาเรียนออนไลน์นั้น ได้สั่งให้กระทรวงสาธารณสุขไปดู ว่าโรงเรียนใดไม่สามารถใช้การเรียนระบบออนไลน์ได้ให้ไปหาวิธีอื่น ขณะเดียวกันยังห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยง ทั้งการประชุมสัมมนา จัดเลี้ยง หรือเว้นแต่จะได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ว่ามีมาตรการที่ดีในการป้องกันความเสี่ยง
ส่วนสถานประกอบการ ผับ บาร์ และคาราโอเกะ ยังต้องปิดต่อไป แต่ร้านอาหารที่อนุญาตให้เปิดได้จนถึงเวลา 21.00 น. นั้น เพราะอยากให้ทุกอย่างเดินไปได้ ไม่ได้รับผลกระทบ และสมาคมภัตตาคารไทยต้องไปกำกับดูแลให้เรียบร้อย ไม่ให้เกิดผลกระทบมากขึ้น
พล.อ. ประยุทธ์ ยังย้ำว่าพื้นที่ควบคุม 28 จังหวัด ให้งดหรือชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด เว้นแต่มีเหตุจำเป็น โดยต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานตามด่านตรวจ
ส่วนกรณีคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกจังหวัด 5 จังหวัด คือ สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง จันทรบุรี และตราดนั้น การให้ข่าวยังมีความสับสนไม่ตรงกัน จึงยืนยันว่าทั้ง 5 จังหวัดนั้นไม่ใช่การล็อกดาวน์เหมือนที่เคยทำครั้งก่อน เพราะการล็อกดาวน์คือการห้ามคนออกมาเดินนอกบ้าน ซึ่งจะทำให้บ้านเมืองเกิดความร้างไม่มีผู้คน แต่หากในวันข้างหน้ายังแก้ไขสถานการณ์ไม่ได้ ก็อาจจะไปสู่ขั้นตอนการล็อกดาวน์ ซึ่งไม่อยากให้เกิดขึ้น
พล.อ. ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการอนุมัติงบประมาณซื้อวัคซีนให้กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเงินสำหรับรองรับวัคซีนที่จะเข้ามาในล็อตแรก 2 ล้านโดส และในปลายเดือนมีนาคมอีก 8 หมื่นโดสสำหรับประชาชน 4 แสนคน และในเดือนเมษายนอีก 1 ล้านโดส เตรียมพร้อมสำหรับประชาชน 5 แสนคน และในปลายเดือนพฤษภาคมอีก 26 ล้านโดสสำหรับประชาชน 13 ล้านคน ซึ่งทั้งหมดจะต้องได้รับการตรวจสอบ และผ่านมาตรฐานขององค์การอาหารและยา หรือ อย. ของประเทศไทยและต่างประเทศด้วย
ขณะเดียวกันวันนี้ได้สั่งจองวัคซีนของบริษัท AstraZeneca อีก 35 ล้านโดส ซึ่งหากรวมวัคซีนทั้งหมดแล้วก็จะรองรับการฉีดให้กับประชาชน 60 ล้านคน เพราะหนึ่งคนต้องฉีดวัคซีน 2 โดส และห่างกัน 4 สัปดาห์ ส่วนจะให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งนั้นก็เป็นไปตามมาตรฐานของกรมควบคุมโรค แต่ต้องเน้นและให้ความสำคัญกับกลุ่มบุคลากรที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยก่อน รวมไปถึงประชาชนที่อยู่ในกลุ่มโรคที่มีความเสี่ยงต่อโควิด-19
ส่วนภาคเอกชนรัฐบาลก็เปิดโอกาสให้สามารถจัดหาวัคซีน แต่ต้องผ่านมาตรฐานการควบคุมการใช้วัคซีน
พล.อ. ประยุทธ์ยังกล่าวว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายเศรษฐกิจไปหามาตรการไปช่วยเหลือประชาชนในช่วงสองเดือนนี้ ซึ่งบางอย่างจะไปเพิ่มเติมจากความช่วยเหลือเดิม หรือจะขยายมาตรการออกไป โดยเฉพาะโครงการเที่ยวด้วยกันที่อาจจะขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการโรงแรมให้ขยายระยะเวลาการใช้ของประชาชนออกไปอีก
ส่วนที่มีประชาชนคัดค้านการตั้งโรงพยาบาลสนามในพื้นที่ ยืนยันว่าหากพื้นที่ไหนมีความจำเป็นก็จะต้องตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นมา ทั้งนี้ ต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ให้พร้อม ขอให้คิดถึงส่วนรวม ขณะเดียวกันมาตรการในการควบคุมของโรงพยาบาลสนามก็มีอย่างชัดเจน
“ถามว่าโรงพยาบาลต่างๆ มีความเสี่ยงไหม ก็มีความเสี่ยงเหมือนกันทั้งหมด แต่โรงพยาบาลสนามจะทำการรักษาผู้ป่วยเฉพาะกลุ่ม ซึ่งจะลดความเสี่ยงให้กับผู้ป่วยโรคอื่นๆ ในโรงพยาบาลได้ และยืนยันว่าจะไม่ให้โรงพยาบาลสนามและโรงพยาบาลในท้องถิ่นไปข้องเกี่ยวกันอยู่แล้ว” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว
ทั้งนี้ ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้น ระหว่างเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ผู้สื่อข่าวได้ถาม พล.อ. ประยุทธ์ถึงเหตุผลที่ พล.อ. ประยุทธ์เลี่ยงที่จะใช้คำสั่งล็อกดาวน์ในครั้งนี้ เพราะหลีกเลี่ยงที่จะจ่ายเงินเยียวยาประชาชนเหมือนกับที่บางกลุ่มตั้งข้อสังเกตหรือไม่ ซึ่ง พล.อ. ประยุทธ์ตอบสั้นๆ ว่า “ได้พูดไปหมดแล้ว”
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์