วันนี้ (27 กุมภาพันธ์) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงนโยบายเพิ่มเงินสวัสดิการแห่งรัฐเป็น 1,000 บาทของพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ต้องพิจารณาว่าเป็นไปได้หรือไม่ จะเอางบประมาณจากไหนมา ซึ่งภายในพรรคต้องหารือกัน โดยเม็ดเงินที่จะใช้ 40,000 กว่าล้านบาทก็พอจะหาได้
พล.อ. ประยุทธ์ ย้ำว่า นโยบายที่ออกมาไม่ได้เกทับหรือออกเพื่อแซงหน้าพรรคไหน แต่นโยบายนี้คือนโยบายพรรค ตนไม่ได้สนใจอะไรแบบนี้ กับหัวหน้าพรรคอื่นก็สนิทกัน รักกันดี ทั้งหมดเป็นเรื่องของการหาเสียง แต่ตนเองหาเสียงในสิ่งที่เป็นไปได้ เพราะรู้ว่าจะบริหารอย่างไร การเป็นนายกรัฐมนตรีต้องรู้กลไกขั้นตอนของงบประมาณว่ามีอยู่เท่าไร ถ้าพูดปากเปล่าคูณตัวเลขไปเป็นแสนล้านบาท แต่ยังไม่รู้ว่าจะเอามาจากไหน ก็จะไม่พูด ยืนยันว่าพูดนโยบายไปแล้วต้องทำได้ เพราะมีคนปรึกษาและมีข้อมูลอยู่แล้ว
พล.อ. ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงการลงไปปราศรัยที่ชุมพรและนครราชสีมา ว่ายังไม่ได้ประเมิน ก็ยังทำงานต่อไปและพูดข้อเท็จจริง รวมถึงขอความร่วมมือกับประชาชน ยังไม่ได้ประเมินอะไร พราะมีคนประเมินอยู่เยอะแล้ว รวมถึงพวกสื่อที่ประเมินไว้เยอะอยู่แล้วตอนเย็น
ส่วนที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเก้าอี้เวทีปราศรัยที่นครราชสีมาว่างเยอะ พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงว่าว่างตอนเย็นเพราะคนกลับบ้าน บางส่วนมากันตั้งแต่ตอนบ่าย เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าต้องปรับกลยุทธ์ขึ้นเวทีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบกลับว่า “ก็นั่นแหละก็ไปช่วยเขาสิ ไปช่วยเสนอให้เขาปรับให้หน่อย ใครจะพูดก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นนายกฯ หรอก”
ส่วนจะปรับคิวพูดให้เร็วขึ้นหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า วันนั้นก็ไปถึงเร็วเตรียมพร้อมนานแล้ว แต่ไปเจอกับคนที่มาต้อนรับอีกที่ จึงอยู่คุยกับเขานานไปหน่อย ส่วนบนเวทีก็ยังพูดหาเสียงกันอยู่ ก็ปรับกันไป
