วันนี่ (9 กันยายน) ที่อาคารรัฐสภา พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาว่า นักเรียนในระดับมัธยม 2.2 ล้านคน ระดับปริญญาตรี 1.5 ล้านคน ซึ่งรัฐบาลต้องทำงานว่าจะดูแลคนเหล่านี้อย่างไร ยอมรับว่าจะทำให้ทุกคนพอใจเป็นเรื่องยาก แต่ไม่เกินความพยายามหากพวกเราช่วยกัน ย้ำว่ารัฐบาลมีความห่วงใยในสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 และสถานการณ์อื่นๆ จะพยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อดูแลแก้ไขทุกอย่างให้กลับมาสู่ปกติโดยเร็ว และเดินหน้าสู่การพัฒนาประเทศในระยะต่อไป แม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้างก็ตาม แต่ก็ยังคงมีความพยายามเหล่านี้ เพราะนึกถึงชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน จำเป็นต้องทำด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังข้อกฎหมาย ภายใต้งบประมาณที่มีอยู่จำกัด และการกู้เงินต่างๆ ที่จำเป็นก็ต้องกู้ หากไม่มีเหตุการณ์ก็คงไม่ต้องกู้ ส่วนที่มีการอ้างว่ารัฐบาลไม่เคยถูกตรวจสอบมาตั้งแต่สมัยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็เป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะเรื่องต่างๆ ก็ยังทำงานอยู่ มีการตรวจสอบ มีการชี้แจงและการทักท้วง
นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ว่าน่าพอใจในระดับโลก และต้องร่วมมือกันให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเรื่องเศรษฐกิจ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจคงจะชี้แจงทั้งส่วนอาเซียนและส่วนประชาคมโลก ยืนยันว่าเคารพในกระบวนการรัฐสภามาโดยตลอด จะทำทุกอย่างให้เกิดความชอบธรรมโปร่งใสให้มากที่สุด หลายปัญหาที่จะพูดในช่วงบ่ายวันนี้ก็เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นยาวนานมาแล้ว ซึ่งรัฐบาลที่เข้ามาก็มีการเตรียมแก้ปัญหามาหลายปีแล้วเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้หลายปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข ยืนยันว่าจะรับผิดชอบแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่าอย่ารังเกียจทหารมากนัก เพราะคือลูกหลานทั้งนั้น ทำงานด้วยความเสียสละ หลายคนเคยเป็นทหารมาก่อน แต่ไม่ประสบความสำเร็จในวงการทหาร จึงโจมตีวงการทหาร แต่อะไรที่เป็นประโยชน์ก็รับฟังได้ และขออย่าแยกทหารออกจากประชาชน ทหารไทยไม่ได้มีแค่ปฏิวัติ แต่ทุกวันนี้ทหารทำงานเพื่อประชาชน ทั้งการป้องกันประเทศ การป้องกันภัยพิบัติ การป้องกันโควิด-19 ขอให้ทุกคนร่วมมือกัน อย่าสร้างความเกลียดชังต่อไปเลย ซึ่งรัฐบาลทำทุกอย่าง มีการตั้งคณะทำงานเพื่อปฏิรูปและปรับลดจำนวนข้าราชการลงให้ได้ ขณะเดียวกันก็ต้องมีหน่วยงานใหม่ขึ้นมาทดแทนโดยไม่เพิ่มอัตรากำลังมากนัก เพราะมีเทคโนโลยีต่างๆ มากมายขึ้นมาทดแทน ส่วนการกล่าวถึงชีวิตส่วนตัว ออกกำลังกายบ้าง ยืนยันว่าสั่งการได้อยู่แล้ว ทำงานได้ไม่มีวันหยุดราชการ พร้อมย้ำว่าจะทำการปฏิรูปให้สำเร็จ ไม่ได้มีปัญหากับนักเรียนนักศึกษา มีแต่คนทำให้นักเรียนนักศึกษามีปัญหากับตนเอง และขอบคุณสมาชิกทุกคนทั้งที่อยู่ในห้องจำนวนน้อยและอยู่นอกห้องอีกจำนวนมาก
ขณะที่ คารม พลพรกลาง ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีพาดพิง ส.ส. ที่ไม่ได้อยู่ในห้องประชุม ซึ่งทำให้สภาเกิดความเสียหาย ส่วน พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส. เชียงราย พรรคเพื่อไทย ร้องเรียนว่าการถ่ายทอดสดทีวีรัฐสภามีปัญหาสัญญาณช้าว่าเป็นความจงใจหรือไม่
ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงว่าจำนวน ส.ส. ในห้องน้อยไม่ได้แปลว่ามีปัญหา เพราะมีมาตรการให้ ส.ส. นั่งห่างกัน และไม่สนับสนุนให้นั่งเต็มในห้อง เพราะจะมีปัญหาเกี่ยวกับการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งรัฐสภาไทยยังไม่เคยมีผู้ติดเชื้อ สถานการณ์ยังดีอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะตลอดรอดฝั่งหรือไม่
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์