วันนี้ (21 เมษายน) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ, พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, อนุชา บูรพชัยศรี และผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเชียงใหม่ ลงพื้นที่หาเสียงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ตลอดช่วงบ่ายวันนี้
โดยเริ่มต้นที่วัดยางกวง ตำบลหายยา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้เข้าสักการะอนุสาวรีย์พญามังรายมหาราช เพื่อความเป็นสิริมงคล
หลังจากนั้นผู้สมัครของพรรคพร้อมด้วยสมาชิกพรรคได้จัดพิธีรดน้ำดำหัวเนื่องในประเพณีสงกรานต์ และขอพร พล.อ. ประยุทธ์ ก่อนจะร่วมกันเดินหาเสียงภายในตลาดก้อม และรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านข้าวซอยลุงประกิจ โดย พล.อ. ประยุทธ์ เลือกเมนูข้าวซอยเนื้อเป็นอาหารกลางวัน
จากนั้นเดินทางไปยังม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม เพื่อพบปะประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์ รับฟังปัญหาเรื่องที่ดินทำกินและการถือครองสิทธิที่ดิน ก่อนที่จะเดินทางพบปะประชาชนที่ตลาดนัดศรีบุญเรือง ระหว่างเดินพบปะประชาชน พ่อค้าแม่ค้าที่ค้าขายในตลาด ได้มีผู้สนับสนุนมาให้กำลังใจ พร้อมทั้งขอถ่ายภาพด้วยเป็นระยะ โดย พล.อ. ประยุทธ์ ได้ขึ้นรถปราศรัย ซึ่งได้กล่าวว่าเป็นการขึ้นรถเพื่อกล่าวปราศรัยเป็นครั้งที่ 2
พล.อ. ประยุทธ์ปราศรัยระบุถึงผลงานของรัฐบาลในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา ทั้งโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โครงการรถไฟความเร็วสูงที่ไปยังคุนหมิง ประเทศจีน และภาคใต้ไปปาดังเบซาร์ ประเทศมาเลเซีย ขณะที่สนามบินเชียงใหม่แห่งที่สองก็เริ่มสร้างแล้ว ขอย้ำว่าโครงการต่างๆ ได้อยู่ในนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติอีกมาก เพราะเราจะดูแลประชาชนแบบพุ่งเป้า
พล.อ. ประยุทธ์ยังระบุด้วยว่า ตนทำงานบางครั้งก็เครียดบ้างก็ต้องขอโทษ แต่ไม่เคยทำให้ใครไม่รักกัน ขอบคุณน้ำใจไมตรีที่มอบให้ จะคืนกลับไปให้ร้อยเท่าพันทวี อย่างไรก็ตาม ก่อนจบการปราศรัย พล.อ. ประยุทธ์ย้ำถึงการมีทหารว่ามีความจำเป็น ถ้าไม่มีทหาร ใครจะปกป้องประเทศ หรือจะให้แจกปืนให้ประชาชนไปสู้รบกับศัตรู ประเทศชาติต้องเป็นหนึ่งเดียว ใครจะแบ่งแยกไม่ได้ พร้อมกับนำประชาชนที่มาฟังปราศรัยให้พูดตามว่า “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน” เพราะนี่คือหัวใจของพรรครวมไทยสร้างชาติ
ทั้งนี้ ระหว่างเดินหาเสียงพบปะประชาชนบริเวณตลาดนัดศรีบุญเรือง พุธิตา ชัยอนันต์ ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล เบอร์ 5 เขตอำเภอสันทรายและอำเภอแม่ริม (เฉพาะตำบลดอนแก้ว เหมืองแก้ว แม่สา) ลงพื้นที่หาเสียงเช่นกัน ระหว่างนั้นได้พูดถึงเรื่องการบังคับเกณฑ์ทหาร รวมถึงการที่ พล.อ. ประยุทธ์ สร้างความเข้าใจผิดว่ามีการยกเลิกกองทัพ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องขอความร่วมมือหลีกเลี่ยงการเจอกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น จากนั้นทั้งสองพรรคก็เดินหาเสียงกันตามปกติ
