วันนี้ (21 เมษายน) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่ามีการโปรดเกล้าฯ พ.ร.ก. 3 ฉบับแล้ว พ.ร.ก. สำคัญคือ พ.ร.ก. กู้เงิน จำนวนไม่เกิน 1 ล้านล้านบาท มีทั้งด้านสาธารณสุข การเยียวยา และฟื้นฟู ซึ่งทั้ง 3 ส่วนมีการตั้งคณะกรรมการคัดกรอง และได้มีการหารือแล้วว่าจะมีระเบียบใช้เงินอย่างไรให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด รอบคอบ และใช้ด้วยความจำเป็น ซึ่งกระทรวงจะนำเสนอแผนงานต่างๆ เข้าคณะรัฐมนตรีให้เร็วที่สุด ทั้งมาตรการสาธารณสุขและการเยียวยา ซึ่งตนรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน และมอบหมายให้ส่วนราชการนำไปพิจารณาปฏิบัติอย่างเหมาะสม
สำหรับสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 หลายอย่างดีขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงตามลำดับหลายวัน แต่ต้องดูต่อไปเพื่อดำเนินการในระยะต่อไป แต่อย่าเพิ่งผลีผลาม หลายท่านเรียกร้องให้ปลดโน่นปลดนี่กันในเวลานี้ ตนคิดว่าต้องระมัดระวังอย่างถึงที่สุด ตนไม่ต้องการตัดสินใจด้วยแรงกดดัน แต่อยากตัดสินใจด้วยข้อเท็จจริง
“หลายท่านเรียกร้องให้ปลดโน่นปลดนี่กันในเวลานี้ ผมคิดว่าเราต้องระมัดระวังอย่างที่สุด ต้องฟังข้อมูลจากด้านสาธารณสุข การแพทย์ต่างๆ และมาตรการอื่นเรามีการรองรับได้เพียงพอแล้วหรือไม่ ผมไม่ต้องการตัดสินใจด้วยแรงกดดัน ผมต้องการให้เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏอยู่ ถ้าเราเริ่มอะไรหรือปลดอะไรเร็วเกินไป หากมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้น สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดในระยะเวลานานพอสมควรมันล้มเหลวทั้งหมด” พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว
สำหรับ พ.ร.ก. ฉุกเฉินจะพิจารณาอีกครั้งในวันอังคารหน้าว่าจะดำเนินการต่อไปหรือไม่ โดยทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถิติทางสาธารณสุขเป็นตัวชี้วัด ส่วนการผ่อนปรนมาตรการ มีการให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานด้านความมั่นคงดูแลในส่วนการขนส่งสินค้าของประชาชน เพราะได้รับการร้องเรียนมา อย่างไรก็ตาม การละเมิด พ.ร.ก. ฉุกเฉินยังมีมากอยู่ จำนวนยังไม่น่าพอใจ
“ทั้งนี้ตนไม่เคยบอกว่าจะให้เปิดวันที่ 1 พฤษภาคม การผ่อนปรนใดๆ ก็ตาม ผู้ประกอบการต้องเสนอมาตรการของตัวเองขึ้นมาว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง จะมีการทยอยเปิดบางส่วนในระยะต่อไป แต่ยังไม่บอกว่าเมื่อไร ท่านต้องเสนอ แต่บางอย่างถ้ายังไม่เหมาะสมก็ยังไม่เปิด ทราบว่าเดือดร้อน แต่สิ่งที่เดือดร้อนกว่าคือสุขภาพ ถ้าเราทำอะไรเร็วเกินไปจากแรงกดดัน สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดมันเป็นศูนย์ทันที และมันเรียกกลับมาไม่ได้ ดังนั้นรัฐบาลจะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนจะมีมาตรการดังกล่าวออกมาได้
รัฐบาลมีวัตถุประสงค์ให้ประชาชนผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตนี้ให้ได้ สิ่งสำคัญคือท่านต้องดำรงชีวิตอย่างพอเพียงในช่วงนี้ ตนก็เห็นใจ หลายอย่างได้มีการผ่อนคลาย มีการยืดระยะเวลา มีการให้กู้เงินต่างๆ ซึ่งแทบจะครอบคลุมอยู่แล้ว ไม่อยากให้มองในแง่เงินเยียวยาเพียงอย่างเดียว ต้องติดตามอย่างอื่นด้วยว่ารัฐบาลดูแลอะไรท่านไปแล้วบ้าง อย่ามองว่าแค่นี้น้อยเกินไปหรือเปล่า ต้องเห็นใจว่าเรามีเงินเท่าไร เรากู้เงินมาได้เท่าไร เราจะใช้อย่างไร ภาระวันหน้าจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ สิ่งเหล่านี้รัฐบาลต้องคิดอย่างรอบคอบ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์