จากกรณีที่ สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านของกัมพูชา ได้ส่งจดหมายผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเรียกร้องขอเดินทางมายังประเทศไทยในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG 931 เพื่อใช้ไทยเป็นทางผ่านไปยังปอยเปตของประเทศกัมพูชาในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งตรงกับวันฉลองเอกราชของกัมพูชา โดยระบุว่า ไม่มีทางเลือกอื่น และหวังให้เกิดการปรองดองในกัมพูชา
ล่าสุดวันนี้ (6 พฤศจิกายน) พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าถ้าตามมติของอาเซียน เราจะไม่ยุ่งกิจการภายในซึ่งกันและกัน และเราจะไม่ยอมให้ผู้ต่อต้านรัฐบาลมาใช้ไทยเป็นพื้นที่ในการเคลื่อนไหว ซึ่งตนได้สั่งการไปแล้ว และก็คงไม่ได้เข้ามา
เมื่อถามว่า ได้มีการแจ้งกับ สม รังสี ไปโดยตรงหรือไม่ว่าไม่อนุญาตให้เข้ามาในประเทศ
“ผมจะไปแจ้งเขาทำไม ตนคุยกับรัฐบาลต่อรัฐบาล เขาไม่ได้เป็นรัฐบาล จะคุยอะไรได้” พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว
ขณะที่ ดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ว่า ยังไม่เห็นตั๋วเที่ยวบินการบินไทยตามที่ปรากฏเป็นข่าว ส่วนกรณีกระแสข่าวที่ สมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ขอความร่วมมือในที่ประชุมสุดยอดอาเซียน ไม่ให้ทีมงานของ สม รังสี เข้าประเทศนั้น
ดอนยืนยันว่า ไม่ได้มีการหยิบยกเรื่องดังกล่าวมาพูดคุยในที่ประชุม ส่วนจะมีนอกรอบหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะการประชุมนอกรอบเป็นเรื่องของแต่ละประเทศ
ส่วนที่ทำการกัมพูชาเริ่มกวาดล้างเครือข่ายของ สม รังสี ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา รู้สึกกังวลหรือไม่ ดอนกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่สามารถตอบได้ เพราะว่าสิ่งที่รับรู้กันอยู่ในแง่ของพื้นฐาน ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านหรือมิตรประเทศ เราก็รู้กันอยู่ว่า มีนโยบายคล้ายคลึงกันคือ ไม่อยากให้บ้านของเราเป็นจุดของการเคลื่อนไหวทางการเมือง หากมาในลักษณะนั้น ก็คงไม่ใช่สิ่งที่น่าปรารถนา ส่วนที่ว่าจะมาอย่างไร มาเมื่อไร ความจริงเจ้าตัวต้องรับรู้เรื่องนี้อยู่ ควรจะรู้ว่าการเดินทางเข้าประเทศอื่น และมีความเคลื่อนไหวและมีการเคลื่อนไหวมีความเสี่ยงอยู่ และหวังว่าทุกอย่างจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อถามว่า สามารถยืนยันได้หรือไม่ว่า สม รังสี จะไม่เข้าไทย ดอนปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล