×

เลือกตั้ง 2566 : ประยุทธ์ยอมรับ ทยอยเก็บของพ้นทำเนียบแล้ว ไม่ใจหาย พร้อมออกบ้านหลวง แค่กังวลความปลอดภัย ชี้ชาติอื่นยังดูแลอดีตผู้นำ ยืนยันไร้ดีลอยู่ต่อ

โดย THE STANDARD TEAM
22.06.2023
  • LOADING...
ประยุทธ์ จันทร์โอชา

วันนี้ (22 มิถุนายน) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์การประชุมสภากลาโหมในวันนี้ว่า ไม่ได้มีการพูดคุยถึงเรื่องของการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2566 ซึ่งเป็นไปตามกฎระเบียบอยู่แล้ว แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่เหล่าทัพต้องไปเตรียมการปรับย้ายภายใน เพื่อเสนอขึ้นมาในคณะกรรมการฯ โดยยืนยันว่า ยังมีเวลาอยู่ แม้เป็นรัฐบาลรักษาการ

 

ขณะที่การปฏิรูปกองทัพ ขณะนี้อยู่ในระยะที่ 2 ก็ได้มีการพูดคุยกันแล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่ระบบงบประมาณที่มีไม่เพียงพอ เพราะหากทำก็ต้องนำยุทโธปกรณ์ใหม่เข้ามา รวมถึงซ่อมของเก่า ซึ่งต้องดูในเรื่องนี้ด้วย เพื่อให้เดินหน้าไปได้ 

 

เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่เมื่อรัฐบาลใหม่เข้ามา จะพูดเกี่ยวกับเรื่องงบประมาณของกระทรวงกลาโหมไม่เข้าใจ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ตนได้ให้สำนักงบประมาณดูแล้ว เมื่อถึงเวลาก็ต้องให้มีการหารือกันกับรัฐบาลใหม่ ขณะที่การเจอผู้บัญชาการเหล่าทัพในวันนี้ ไม่ได้มีการพูดคุยกัน เพียงแต่ให้เตรียมข้อมูลให้พอเพียง เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลใหม่ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ขัดแย้งกับใครอยู่แล้ว พร้อมให้เกียรติซึ่งกันและกัน 

 

ส่วนการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลมันก็ต้องไปด้วยกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็แล้วแต่ เพราะรัฐบาลเป็นผู้บริหารทั้งหมดอยู่แล้ว ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลของตนหรือรัฐบาลใดก็เหมือนกันทั้งหมด ไม่ใช่ทหารจะมาปกครอง แต่ทหารก็เป็นเครื่องมือของรัฐบาลมาโดยตลอดของทุกรัฐบาลที่ผ่านมา เพราะคนบริหารก็คือนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

 

เมื่อถามว่าพูดแบบเหมือนว่า พล.อ. ประยุทธ์เตรียมจะไป และมีการเก็บของตามกระแสข่าวใช่หรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ตนเองไม่เกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้นกับข่าวที่ออกมา ขออย่านำตนไปเกี่ยวข้อง พร้อมยืนยันว่าตอนนี้ตนก็ยังอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ และย้ำว่าตนไม่ได้มีการเจรจาหรือดีลกับใครทั้งสิ้น เพราะเราต้องเคารพซึ่งกันและกันตามกระบวนการรัฐธรรมนูญ ซึ่งการรวมพรรครวมกลุ่มรวมฝ่ายตนจะไม่ไปยุ่งอะไรทั้งสิ้น 

 

เมื่อถามย้ำว่ามีการเก็บของออกจากทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์ถามกับสื่อว่าเก็บไม่ได้หรือ มาสนใจแต่เรื่องเก็บ ไม่เก็บ ซึ่งมันก็ต้องมีการทยอยเก็บไปบ้างแหละ เพราะว่าวันนี้ต้องทำตามสิ่งต่างๆ ในช่วงเวลาที่ควรทำ และห้องตนก็รกเพราะมีเอกสารมาก ซึ่งอยากจะรื้อไปตั้งนานแล้ว เดินก็สะดุดจะตายแล้ว เพราะอยู่มาหลายปี

 

เมื่อถามว่า หากพ้นอำนาจนายกรัฐมนตรีจะต้องออกจากบ้านพักหลวงในค่ายทหารหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องกติกาเดิมอยู่แล้ว หากวันหน้าจะแก้ไขก็ต้องไปแก้ที่กฎกระทรวง เพราะเป็นระเบียบของกองทัพบก 

 

“การที่เขาจะดูแลผู้บังคับบัญชา มันเป็นกติกาเหมือนเดิม ถ้าอยากเปลี่ยนก็เชิญ ก็เปลี่ยนไป ผมก็พร้อมออก ตั้งแต่อดีต ผบ.ทบ. มา นายกรัฐมนตรีหลายประเทศเขาก็ดูแลกันอยู่ มีหลายประเทศไหนเขาไล่คนเก่าไหมล่ะ เขาก็มี รปภ. มีอะไรต่างๆ ดูแลตลอด ไอ้ประเทศไทยไม่ได้เลย ต้องเท่าเทียม แล้วแต่ ผมก็เคารพกติกา” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว

 

เมื่อถามย้ำเรื่องพรรคเพื่อไทยมีการกดดันให้ออกจากบ้านพักหลวง พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ระเบียบว่าอย่างไรก็ไปแก้มาสิ วันนี้ผมอยู่ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย บ้านผมก็มีไม่ใช่ว่าไม่มี แต่มันไม่ปลอดภัย แต่ถ้าเขาไม่เข้าใจก็เรื่องของเขา พร้อมปฏิเสธว่า ตนไม่ได้ห่วงว่าใครจะมาทำอะไร แต่มันเป็นหน้าที่และเป็นสากล พร้อมยืนยันว่าผมก็มีแรงป้องกันตนเองอยู่เหมือนกัน

 

เมื่อถามว่าทำไมถึงคิดว่าตนเองจะไม่ปลอดภัย พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นการพูดถึงหลักการของคนเป็นผู้นำและอดีตผู้นำ และถ้าวันนี้ทุกคนเท่าเทียมกันหมด มาวันนี้ก็ไม่ต้องมีใครมากับตน หากไปไหนไปคนเดียวจะได้หรือไม่ ซึ่งเขาก็ต้องให้เกียรติและคุ้มครองดูแลซึ่งเป็นหน้าที่ เดี๋ยวรัฐบาลหน้ามาก็ได้รับการดูแลเช่นกัน แต่เขาไม่ใช่ทหารแบบตนเท่านั้นเอง

 

ส่วนกลัวจะโดนเช็กบิลย้อนหลังหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์ถามกลับสื่อว่า ผมต้องกลัวอะไรเล่า ก็ไปสู้ทางกฎหมายเอา จะถามว่าเขาจะแจ้งความในเรื่องกบฏในการทำรัฐประหาร พล.อ. ประยุทธ์ย้ำว่า มันจบไปตั้งนานแล้ว กฎหมายมันย้อนได้ไหมเล่า เขาพยายามมันทำได้ไหม ผิดหลักการทางกฎหมายไหม 

 

เมื่อถามว่า แสดงว่าตนมั่นใจจะไม่โดนเช็กบิลย้อนหลังใช่หรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์ปฏิเสธว่าไม่รู้และไม่ทราบ ส่วนจะไปเช็กบิลเขาก่อนหรือไม่ ตนไม่ไปรบกับใคร เอาผมไปรบกับเขาเรื่อย ข่าวลือคือข่าวลือ ไม่ฟังแล้ว ขี้เกียจฟัง และไม่ขอฝากบอกอะไร 

 

เมื่อถามว่า กองทัพมีความเป็นห่วงหรือไม่ หากพรรคก้าวไกลไม่ได้เป็นรัฐบาล และอาจจะมีการลงถนนเกิดขึ้น พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของฝ่ายมั่นคงดำเนินการ หากชุมนุมโดยสงบก็ว่าไป แต่ถ้ามีการใช้ความรุนแรงหรือเข้าไปในเขตที่หวงห้ามก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่อย่าให้เกิดเลย 

 

ส่วนเรื่องการโหวตเลือกประธานสภา พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ตนเองไม่ยุ่งและไม่ตอบ ส่วนแนวทางการโหวต เดี๋ยวพรรครวมไทยสร้างชาติก็คงหารือกันเอง ได้มอบหมายให้ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ดูแลในเรื่องนี้ โดยไม่ต้องสั่ง ส่วนจะให้ฟรีโหวตหรือเป็นมติพรรคนั้น ทุกพรรคเขาก็ต้องมีมติของตัวเอง

 

ขณะที่การทำงานของพีระพันธุ์ในฐานะเลขาธิการนายกรัฐมนตรีนั้น พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ตามกฎหมายมันได้ แม้จะไม่เคยเกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่า วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ก็บอกแล้วว่าตรวจสอบทางกฎหมายแล้วไม่มีอะไร สามารถทำงานได้ไปจนถึงวันปฏิญาณตน 

 

ส่วนที่มีชื่อ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถูกจับตาว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่าไม่ทราบ เพิ่งได้ยินวันนี้ และตนไม่เกี่ยวข้อง พร้อมปฏิเสธว่าไม่สามารถที่จะอ่านใจกันได้ขนาดนั้น สิ่งนี้เป็นเรื่องของการเมือง ก็ให้กลไกทางการเมืองว่าไป รวมทั้งปฏิเสธตอบว่า พล.อ. ประวิตรสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ เพราะเป็นกลไกในเรื่องการลงคะแนนเสียง ใครจะไปรวมกับใครตนไม่รู้ ตอนนี้รู้เพียงพรรคอันดับ 1 และ 2 กำลังรวมกันอยู่ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามนี้ อย่าสงสัยมาก

 

เมื่อถามว่าหาก พล.อ. ประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติจะไปร่วมหรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ให้การเลือกประธานสภาตอนนี้ไปให้ได้ก่อน

 

เมื่อถามว่าหากได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่มาจริงๆ จะใจหายหรือไม่ เพราะทำงานมานาน อยู่มา 8-9 ปี พล.อ. ประยุทธ์ระบุว่า ไม่หรอก เพราะทำดีแล้ว แม้จะไม่ 100% แต่ตนก็ทำไว้เยอะเหมือนกัน ฉะนั้น หากได้รับการสานต่อมันก็จะแก้ไขได้ ส่วนที่ตนห่วงและอยากให้ทำต่อก็มีหลายอย่าง คือเรื่องที่ได้มีการวางแผนงานไว้แล้ว เพราะถ้าหยุดก็จะไม่ยั่งยืน 

 

เมื่อถามว่าจะยังไม่ประกาศวางมือใช่หรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ถึงเวลาก็ว่าเอง ตอนนี้จำเป็นต้องไปตอบใครเล่า ทำไมอยากรู้มากมายนักหรือ ทำไมต้องชัด ไม่ต้องชัดหรอก ซึ่งชัดอย่างเดียว ผมไม่ไปยุ่งกับเขา

 

ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีนักศึกษาทำประชามติแบ่งแยกดินแดน พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า ได้มีการรายงานความคืบหน้าทางคดีแล้ว ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ แต่ตนไม่ต้องการให้เกิดความแตกแยก ส่วนมีพรรคการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ตนไม่ทราบเพราะอยู่ในกระบวนการ เดี๋ยวก็ฟ้องทางคดีเอง เพราะกฎหมายมี หากไม่ทำก็ไม่ได้

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising