วานนี้ (21 พฤศจิกายน) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้บางกะปิ ซอยนวมินทร์ 12 แขวงบางกะปิ เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร โดย ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ-วังทองหลาง พรรคพลังประชารัฐ ให้การต้อนรับ
เมื่อเดินทางถึง พล.อ. ประยุทธ์ ร่วมพูดคุยกับประชาชน โดยมีตัวแทนชุมชนกล่าวต้อนรับระบุว่า พวกตนรู้สึกดีใจที่การร้องเรียนของตนได้ส่งต่อไปถึง พล.อ. ประยุทธ์ และวันนี้ พล.อ. ประยุทธ์ เดินทางลงมาด้วยตัวเอง ทำให้ทุกคนดีใจและไม่คิดว่าท่านจะเดินทางมาด้วยตัวเอง จึงมั่นใจว่าปัญหาความเดือดร้อนของพวกตนจะได้รับการแก้ไขอย่างแท้จริง ซึ่งต้องขอบคุณ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ ที่ได้นำเรื่องราวความเดือนร้อนของพวกตนเข้าทำเนียบ และรู้สึกอุ่นใจที่ พล.อ. ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ให้ความห่วงใยประชาชนทุกคน
ต่อมา พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวอย่างเป็นกันเองกับประชาชนและตัวแทนชุมชนที่มาร่วมพูดคุยว่า ที่ผ่านมาตนรับรู้ถึงความเดือดร้อนของทุกคนมาโดยตลอด ซึ่งไม่ได้นิ่งนอนใจ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลหาทางออกให้ และวันนี้ดีใจที่มีการหารือกัน เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม ที่จริงตนตามเรื่องนี้มาตั้งแต่เช้าวันที่ 20 พฤศจิกายน และให้ทีมงานดูว่าจะมาลงพื้นที่ได้หรือไม่ และในที่สุดก็สามารถมาได้
ทั้งนี้ อยากให้การแก้ปัญหาแบบนี้เป็นตัวอย่างกับพื้นที่อื่นๆ ในการปรึกษาหารือกันอย่างมีเหตุผล และหาทางออกร่วมกันแก้ไขได้มากน้อยอย่างไรก็มาร่วมกันพิจารณา เพื่อให้เดินไปข้างหน้า หลายอย่างอาจต้องปรับเปลี่ยนเพื่อลูกหลาน และดีใจที่ทุกคนหารือกันอย่างมีเหตุมีผล มาชี้แจงกันโดยไม่มีความขัดแย้ง ส่วนจะทำได้มากหรือน้อยก็ค่อยว่ากันอีกที และพื้นที่นี้เห็นว่าเป็นชุมชนที่เป็นทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตด้วย อดีตคืออดีต ปัจจุบันคือปัจจุบัน ส่วนอนาคตจะเดินหน้าไปทางไหน อย่างไร ก็ต้องช่วยกัน แต่อย่างน้อยที่สุดเรายังมีความสุขอยู่
“โครงการนี้เป็นโครงการระยะยาวที่ต้องใช้เวลานาน ซึ่งหน่วยราชการก็ต้องมีแผนแม่บท หลายอย่างไม่ใช่จะทำได้ทุกอัน สำเร็จก็เยอะ ทำไม่ได้ก็เยอะ การมารับฟังความคิดเห็นและการมีส่วนร่วมก็คือการทำงานในระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ ขอชื่นชมชาวเคหะคลองจั่นที่ถือว่าเป็นชุมชนเข้มแข็ง และอยากให้เป็นตัวอย่างกับพื้นที่อื่นด้วย” พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว
หลังจากนั้น พล.อ. ประยุทธ์ เดินทางไปเยี่ยมชมสนามกีฬาคลองจั่น พร้อมด้วยผู้บริหารการเคหะฯ และชาวชุมชนเคหะคลองจั่น ทั้งยังได้ทักทายประชาชนและเยาวชนที่มาออกกำลังกายในบริเวณดังกล่าว โดยก่อนเดินทางกลับ พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวกับประชาชนชาวคลองจั่นว่า ขอให้ทุกคนให้ความสำคัญกับการดูแลพื้นที่และชุมชนของตัวเองอย่างเข้มแข็ง เนื่องจากทุกพื้นที่ล้วนมีประวัติศาสตร์สำคัญของตัวเอง เพื่อที่จะส่งต่อให้กับลูกหลานในอนาคต
นอกจากนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ยังได้กล่าวถึงการประชุม APEC ที่ผ่านมาว่า ถือเป็นการประชุมที่ได้ประโยชน์มากมายที่จะทำให้เกิดการพัฒนาและการลงทุนในอนาคต เป็นการทำวันนี้เพื่อลูกหลานในวันข้างหน้า เพราะจะทำให้เกิดการลงทุนในประเทศ เนื่องจาก APEC เป็นเวทีการพูดคุยระดับโลกที่จะมีการมาลงทุนอีกหลายแสนบาท และในการลงทุนแต่ละประเทศจะต้องมีการตกลงซึ่งกันและกัน ถ้าไม่มีข้อตกลงก็จะเดินหน้าไม่ได้ เพราะนโยบายของแต่ละประเทศที่สอดคล้องกัน
ดังนั้นการประชุมในครั้งนี้จึงถือว่าเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ที่ทุกคนร่วมกันทำจนสำเร็จ ในอนาคตแม้เราจะไม่อยู่แล้ว แต่ลูกหลานยังอยู่ อดีต ปัจจุบัน อนาคต และปัจจุบันถ้าทำสำเร็จก็จะก้าวไปสู่อนาคต และทั้งหมดคือประวัติศาสตร์อีกช่วงหนึ่ง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต จะต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน วันนี้เราอยู่ตรงกลางคือปัจจุบัน อดีตคือประวัติศาสตร์ ทำต่อ ทำใหม่ ให้มันดีขึ้น ตอนนี้ทำปัจจุบันให้ทุกคนมีความสุข อนาคตคือเราต้องลงทุนต่างๆ ให้เพิ่มไปสู่อนาคต รองรับการเจริญเติบโตของประเทศของบ้านเมือง
“ที่สำคัญคืออย่าลืมประวัติศาสตร์ของเรา เพราะหากไม่รู้ประวัติศาสตร์ของตัวเอง จะไม่รู้ว่าเราจะรักประเทศไทยของเราได้อย่างไร เราจะรักชุมชนพื้นที่ของเราได้อย่างไร” พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวก่อนเดินทางกลับ
อย่างไรก็ตาม พล.อ. ประยุทธ์ เคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า จะตอบคำถามหรือพูดเรื่องการเมืองหลังการประชุม APEC ท่ามกลางคำถามว่า พล.อ. ประยุทธ์ จะตัดสินใจเดินหน้าอนาคตทางการเมืองกับพรรคใด ไม่ว่าจะเป็นรวมไทยสร้างชาติหรือพลังประชารัฐ แต่การลงพื้นที่ครั้งนี้นับว่าเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองล่าสุดหลังประชุม APEC จบลง